ข้อดี ข้อเสียเปรียบ และการติดตั้ง VPN เราเตอร์

Download Astro
Download Astro
31 พฤษภาคม 2022
 
ความปลอดภัยทางออนไลน์นั้นสำคัญไม่ใช่เล่น ในปัจจุบันนี้ เราใช้เว็บในการทำเรื่องสำคัญต่าง ๆ มากมาย เราชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ อีกทั้งยังใส่ข้อมูลส่วนตัวของเรา  (เช่น บัญชีธนาคาร ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิต และวันเกิด เป็นต้น) ลงไปในเว็บไซต์ที่น่าไว้ใจแต่หากข้อมูลทั้งหมดนี้ตกอยู่มือของผู้ไม่ประสงค์ดีล่ะก็ มันจะถูกนำมาใช้ทำเรื่องที่ไม่ดีต่อเรา เช่น การขโมยเงินกองทุน การสวมรอย การปล้นข้อมูล และอื่น ๆ อีกมาก
 
เหตุผลข้างต้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนความนิยมของ VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) มีเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้การใช้ VPN เป็นวิธีการเข้ารหัสข้อมูลของคุณ เพื่อที่บุคคลภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นหรือนำมาปรับเปลี่ยนใช้สอยได้ ซอฟต์แวร์ชนิดนี้มักจะถูกนำมาติดตั้งในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์พกพา แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์เพื่อเพิ่มคุณภาพด้านความปลอดภัยโดยรวมให้แก่อุปกรณ์ของคุณ
 
ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการใช้ VPN ที่ดีกว่าด้วยการนำมาติดตั้งในเราเตอร์ของคุณ
 
ข้อดีของการใช้ VPN ผ่านเราเตอร์
 
สมัยนี้ในแต่ละบ้านล้วนมีอุปกรณ์สำหรับใช้ออนไลน์มากมายหลายชิ้น และการติดตั้ง VPN ลงในอุปกรณ์แต่ละชิ้นนั้นเป็นเรื่องที่จุกจิกมากเลยทีเดียว อีกอย่าง แขกที่มาเยี่ยมบ้านคุณแต่ละคนก็คงจะนำโทรศัพท์มือถือของตนเองมา และคุณต้องตรวจตราให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับความปลอดภัยเมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ของคุณ
 
การติดตั้งในแบบนี้จะช่วยปกป้องอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย และให้การปกป้องที่ละเอียดอ่อนในเรื่องการติดตามของ ISP การตรวจสอบ และการโจรกรรมข้อมูล และยังมีผลพลอยได้คือ คุณจะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดให้เข้าใช้ในตำแหน่งที่ตั้งของคุณอีกด้วย  
 
ข้อเสียเปรียบจากการใช้ VPN ผ่านทางเราเตอร์
 
แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญมากขนาดนั้น แต่เราก็ยังคงอยากจะพูดถึงข้อเสียเปรียบที่อาจเป็นไปได้ของการใช้ VPN ผ่านทางเราเตอร์อยู่ดี เรื่องแรกก็คือ ความเร็วของบรอดแบนด์ของคุณจะลดน้อยลงไปเล็กน้อยซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และมันก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกด้วย
 
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่งคือ คุณอาจจะได้รับอุปสรรค์ในการเข้าถึงเว็บไซต์ท้องถิ่น ทั้งนี้ เว็บไซต์ที่เคยให้คุณเข้าใช้งานเพียงเพราะว่าคุณอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งที่คุณอาศัยอยู่จริงนั้น อาจจะจำกัดสิทธิ์คุณในการเข้าใช้งานได้เพราะเมื่อใช้ VPN ที่อยู่ IP ของคุณจะดูเหมือนว่ามาจากประเทศอื่นนั้นเอง และถึงแม้ว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่ได้บล็อกคุณ แต่ก็ยังคงมีความยากลำบากในการใช้งานเกิดขึ้นได้เพราะว่าสัญญาณที่จำเป็นต้องใช้นั้นต้องเดินทางจากประเทศอื่นก่อนที่จะกลับมายังประเทศท้องถิ่นของคุณเอง
ข้อเสียเปรียบทั้งสองที่กล่าวมานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมาย และก็ไม่ค่อยจะสร้างความรบกวนผู้ใช้งานในกิจวัตรการท่องโลกออนไลน์ของพวกเขามากนัก แต่เราก็ยังคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราควรนำมาพูดถึงในบทความนี้อยู่ดี
 
การเลือกเราเตอร์ที่เหมาะสม

ไม่ใช่เราเตอร์ทุกชนิดที่จะทำงานกับ VPN ได้ และเฟิร์มแวร์ที่เราเตอร์ราคาถูกส่วนใหญ่เลือกใช้กันก็คือ เฟิร์มแวร์ OEM หากคุณต้องการใช้ VPN ผ่านเราเตอร์ คุณจะต้องซื้อเราเตอร์ที่มีเฟิร์มแวร์ DD-WRT หรือติดตั้งเฟิร์มแวร์นั้น ๆ ลงในเราเตอร์ที่คุณใช้อยู่

 
ส่วนการติดตั้ง DD-WRT ลงในเราเตอร์นั้นจะมาพร้อมกับปัญหาบางประการ อย่างแรกคือ ในการติดตั้ง คุณจะต้องแฟลชเราเตอร์ แล้วจึงติดตั้งเฟิร์มแวร์ ขั้นตอนนี้อาจจะฟังดูเรียบง่าย แต่หากคุณทำไม่ถูกวิธี อาจส่งผลให้เราเตอร์ของคุณใช้งานไม่ได้ไปโดยถาวร
 
จากนั้น คุณจึงสามารถติดตั้งเฟิร์มแวร์ DD-WRT ซึ่งมีให้ติดตั้งฟรี แต่เราแนะนำให้คุณซื้อเราเตอร์ที่สามารถจัดการ VPN ได้ซึ่งอาจจะมีราคาแพงกว่าเราเตอร์โดยทั่วไปอยู่นิดหน่อย แต่มันจะช่วยให้ขั้นตอนนี้เป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
 
และอินเทอร์เน็ตของคุณจะไม่มีทางทำงานช้าลงจากปัญหาเราเตอร์ไม่มีพลังในการประมวลผลจัดการ VPN ด้วย (ซึ่งมักเกิดขึ้นกับเราเตอร์เกรดต่ำที่ถูกนำมาปรับใช้กับ DD-WRT)
 
การหาผู้ให้บริการ VPN
VPN ผู้ให้บริการ VPN นั้นมีมากมายให้เราเลือกใช้ เนื่องด้วยมันเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ใช้งานออนไลน์ สิ่งสำคัญที่ควรมองในการเลือก VPN คือความเสถียรของมัน และต้องดูให้แน่ใจว่ามันไม่มีตัวควบคุมแบนด์วิธ และหากคุณทำการเชื่อมต่อจากประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ คุณต้องตรวจให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการ VPN ของคุณมีโหนดขาออก (exit node) มากเพียงพอสำหรับประเทศนั้น ๆ หรือไม่อีกด้วย
 
ในบทความนี้เราจะใช้ NordVPN เพื่อที่เราจะได้พูดถึงผู้ให้บริการแบบเฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ ขั้นตอนการติดตั้งก็ไม่ได้แตกต่างจากการใช้ VPN เจ้าอื่นเท่าใดนัก
 
ขั้นที่ 1: ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง VPN และแยกไฟล์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ
 
ขั้นที่ 2: พิมพ์ที่อยู่ IP ของเราเตอร์ (สามารถดูได้ที่กล่อง) ลงในแถบค้นหา และลงชื่อเข้าสู่อินเตอร์เฟสผู้ดูแลเราเตอร์
 
ขั้นที่ 3: ไปที่หัวข้อ Setup ที่อยู่ใต้ Basic SetupTLS.key ค้นหาประเภทการเชื่อมต่อ WAN และตั้งค่าให้เป็นการกำหนดค่าอัตโนมัติ (DHCP) และคุณควรตั้งที่อยู่ IP ท้องถิ่นแบบคงที่ให้แก่เราเตอร์โดยไปที่ Network Setup จากนั้นให้ไปที่ Network Address Server Setting (DHCP) และตั้งที่อยู่ VPN DNS ของคุณ
ต้องทำเครื่องหมายลงในกล่องสี่เหลี่ยมของหัวข้อ Use DNSMasq for DHCP, Use DNSMasq for DNS, และ DHCP-Authoritative ให้ครบทุกช่อง
 
ขั้นที่ 4: ไปที่เมนู IPV6 และปิดการใช้งาน
 
ขั้นที่ 5: ไปที่เมนูบริการที่อยู่ใต้หมวดหมู่ VPN เพื่อค้นหา OpenVPN Client และเปิดใช้งาน
กรอกข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ ที่เสนอโดยลูกค้า VPN
 
ขั้นที่ 6: ดาวน์โหลดใบรับรองสำหรับ CA และ TLS จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ
 
ขั้นที่ 7: คัดลอกเนื้อหาของพวกเขาลงในกล่องสี่เหลี่ยมที่อยู่ในเมนูย่อยของหมวดหมู่ Service ใน VPN ตามความถูกต้อง พร้อมตรวจให้แน่ใจว่าคุณได้ใส่ข้อความต่อไปนี้ลงไปในกล่องสี่เหลี่ยมด้วยเช่นกัน “ —–BEGIN CERTIFICATE—– and —–END CERTIFICATE—–“ and “—–BEGIN OpenVPN Static key V1—– and —–END OpenVPN Static key V1—–“ มิเช่นนั้นมันจะไม่สามารถทำงานได้
 
ขั้นที่ 8: ไปที่เมนู Status เพื่อดูที่หมวดหมู่ OpenVPN หากขึ้นว่า “เชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว” ข้างใต้ของเมนู หมายความว่าคุณได้ทำทุกขั้นตอนอย่างถูกต้อง
 
เราหวังว่าคุณจะได้ความรู้ในบทความนี้ถึงคำอธิบายขั้นตอนการใช้ VPN ผ่านเราเตอร์ของคุณ และอธิบายเหตุผลว่าทำไมหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจต่าง ๆ ถึงหันหน้ามาใช้เทคนิคนี้กันมากขึ้น
 
ด้วยข้อเสียเปรียบของเทคนิคนี้มีน้อยนิด แต่ใช้ทุนน้อยและสามารถสร้างความปลอกภัยรัดกุมให้เพิ่มมากขึ้นได้ดีกว่า อีกทั้งเทคนิคนี้สามารถใช้กับอุปกรณ์ทุกชิ้นที่เชื่อมต่อเข้ากับเราเตอร์ ข้อมูลของคุณจะรัดกุมมากขึ้น และคุณก็ยังได้เข้าใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่อยู่ในประเทศของโหนดขาออก (exit node) ที่คุณเลือก