ไม่ต้องสงสัยเลยว่า YouTube นั้นเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นหนึ่งในเหยื่อของการเซ็นเซอร์และถูกบล็อคจากรัฐบาลของหลายๆ ประเทศ
อย่างน้อยเราก็คงคิดเหมือนกันว่าข้อความแสดงความผิดพลาดของระบบที่ขึ้นว่า “เนื้อหานี้ไม่สามารถรับชมได้ในประเทศของคุณ” นั้นน่าหงุดหงิด แต่เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มีสาเหตุหลายอย่างที่ทำให้ YouTube นั้นถูกบล็อคในประเทศของคุณ ปกติแล้วสาเหตุมันจะมาจากเรื่องลิขสิทธิ์ การเซ็นเซอร์สื่อออนไลน์ หรือว่าผู้เผยแพร่วิดีโอนั้นจำกัดให้วิดีโอของเขาดูได้เพียงแค่บางประเทศ
ท่ามกลางเหตุผลที่เป็นไปได้เหล่านี้ การเซ็นเซอร์สื่อออนไลน์นั้นเกิดขึ้นบ่อยที่สุด วิดีโอบางประเภทถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสิ่งผิดกฎหมายและทำตามกฎของ YouTube ก็อาจจะถือว่ามีเนื้อหาที่รุนแรง หรือล่อแหลมและถูกแบน
มีหลายประเทศอย่างเช่นเยอรมนี ที่แบนแพลทฟอร์มสื่อโซเชียลรวมถึง YouTube ด้วย โชคดีที่มีทางในการปลดบล็อก YouTube อย่างง่ายๆ คุณเพียงแค่ใช้งาน VPN ก็แค่นั้น
VPN คือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน ที่ไม่ได้ช่วยแค่ให้คุณปลดบล็อกวิดีโอเท่านั้น แต่ยังช่วยคุณในการท่องเว็บโดยได้อย่างไม่มีใครรู้ตัวตน นั่นหมายความว่าช่วยปกป้องคุณจากการสอดส่องของรัฐบาล จากแฮกเกอร์ และจากสายตาที่อยากรู้อยากเห็นคู่อื่น
เหตุผลที่คุณควรใช้ VPN ในการปลดบล็อก YouTube
บริการ VPN นั้นช่วยคุณได้หลากหลายทาง ได้แก่
• ความปลอดภัย
มีเว็บไซต์จำนวนมากที่อ้างว่าช่วยทำให้คุณเข้าชม YouTube ได้ แต่ปัญหาอยู่ตรงนี้ เว็บไซต์เหล่านั้นเต็มไปด้วยมัลแวร์ที่อันตราย และยังเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ตกตัวอย่างเช่น Hulu เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ช่วยคุณปลดบล็อค YouTube แต่นอกจากนั้นยังพบว่า Hulu นั้นขโมยแบนด์วิชของผู้ใช้บริการไปด้วย
• เข้าถึงได้จากทุกที่บนโลก
บริการ VPN ที่ดีนั้นช่วยคุณเข้าชม YouTube ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนโลก จากการมีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากที่ตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้แหละเข้าชม YouTube ได้โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวน
• ปกปิดตัวตนของคุณ
VPN นั้นคอยช่วยคุณปลอดภัย นอกจากจะช่วยคุณปลดบล็อค Youtube แล้ว VPN ยังช่วยปกปิดตัวตนของคุณตอนที่ท่องอินเทอร์เน็ต และทำให้แฮกเกอรืหรือบุคคลที่ 3 เข้ามาสืบกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้ยาก
VPN ที่ดีที่สุดในการปลดบล็อก Youtube
ExpressVPN นั้นเป็น VPN ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถใช้ปลดบล็อก YouTube นอกจากนี้ VPN ยังมีความเร็วสูงและยังช่วยปกปิดตัวตนของคุณตอนใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย
นอกจากที่จะช่วยให้คุณเข้าชม YouTube แล้ว VPN เจ้านี้ยังช่วยให้คุณสตรีมรายการที่คุณชื่นชอบบน Netflix ด้วย
• NordVPN
นี่เป็นบริการ VPN ที่มีฐานอยู่ที่ประเทศปานามา และเสนอเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากให้คุณเลือกใช้ NordVPN นั้นไม่เก็บประวัติการใช้งาน และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างการใช้ tor ควบคู่ VPN และการตั้งค่าให้ใช้ VPN แบบ double-hop ได้
• VyprVPN
VPN เจ้าถัดมาที่เหมาะกับการปลดบล็อค YouTube ที่สุดคือ VyprVPN ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านของอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย คุณสามารถเลือกแผนการใช้งานทั้งแบบฟรีและพรีเมียม แผนแบบพรีแมมทำให้คุณใช้โปรโตคอล Chameleon ที่เป็นโปรโตคอล VPN ที่บริษัทนี้พัฒนาเองเพื่อซ่อนข้อมูลรับส่งทางอินเทอร์เน็ตของคุณ
จะปลดบล็อค Youtube ที่โรงเรียนได้อย่างไร
หากโรงเรียนหรือองค์กรของคุณบล็อค YouTube การใช้ VPN ก็ยังเป็นวิธีที่ได้ผล มีเหตุผลมากมายที่โรงเรียนนั้นบล็อคเว็บไซต์ดังกล่าว ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะต้องการประหยัดแบนด์วิดท์
ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม VPN ก็ช่วยคุณเรื่องนี้ได้ ยังไม่หมดแค่นั้น ตอนที่คุณใช้ VPN ไม่ใช่แค่เข้าเว็บไซต์ที่ถูกบล็อคได้ แต่เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนยังไม่อาจแกะรอยกิจกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคุณด้วย
พร็อกซี่เพื่อดู YouTube นั้นทำงานได้ดีไหม
อาจมีหลายๆ คนแนะนำให้คุณใช้เว็บไซต์พร็อกซีเพื่อปลดบล็อค YouTube แต่ก่อนที่จะเริ่มใช้บริการเหล่านั้น เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจกลไกการทำงานพื้นฐานของมัน เว็บไซต์พร็อกซีอาจจะช่วยคุณปลดบล็อค YouTube แต่มันไม่ช่วยเข้ารหัสข้อมูลรับส่งของคุณแต่อย่างใด นั่นหมายความว่ากิจกรรมออนไลน์ของคุณนั้นยังถูกสอดส่องและถูกบันทึกได้โดยหน่วยงานต่างๆ
ดังนั้นหากการเข้า Youtube นั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศคุณ อย่างเช่น จีน เกาหลีเหนือ ซูดาน อิหร่าน และในอีกหลายๆ ประเทศ หน่วยงานของรัฐบาลอาจจะแกะรอยเพื่อที่จะลงโทษที่คุณเข้า Youtube
นี่คือเหตุผลว่าการใช้ VPN อาจเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในศึกการเซ็นเซอร์ทางอินเทอร์เน็ต
YouTube นั้นคอยสอดส่งกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตของคุณ
ถึงแม้ว่าประเทศของคุณจะไม่ได้บล็อค YouTube เราก็ยังแนะนำให้คุณใช้งาน VPN เพื่อจัดการด้านความเป็นส่วนตัวตอนที่คุณออนไลน์ ถึงแม้ว่าจะไม่มีการพูดกันอย่างเปิดเผยนัก แต่บริการมักมีการสอดส่องและบันทึกกิจกรรมของคุณและแชร์ให้กับรัฐบาล
มีโปรแกรมของรัฐบาลที่ชื่อ PRISM ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัทจำกัดอย่าง Google กับหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐ มีข้อค้นพบว่า Google ซึ่งเป็นเจ้าของ YouTube นั้นทำงานร่วมกับ NSA ตั้งแต่ ค.ศ. 2009
แค่นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะยืนยันความจริงว่าคุณถูกสอดส่องการออนไลน์อยู่ตลอดเวลา และวิธีที่ปกป้องตัวตนของคุณขณะที่ออนไลน์ได้ดีที่สุดคือการใช้ VPN