เมื่อปลายปี 2017 เว็บ DNSCrypt.org ปิดให้บริการ โดยผู้สร้างโปรโตคอลกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าเขาไม่ใช้มันแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้งานของบริการนี้หาทางเลือกอื่นแทน แต่โชคไม่ดีนักที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจำนวนมากยังต้องพึ่งพาการเข้ารหัส DNS query ดังนั้นเป็นเรื่องน่าเสียดายที่บริการดังกล่าวนั้นไม่เปิดให้ใช้งานอีกต่อไป
คุณอาจจะสงสัยว่า DNS query คืออะไร แล้วทำไมถึงต้องเข้ารหัสมัน และมันใช้ปกป้องตัวคุณอย่างไร ขณะที่ DNSCrypt ปิดตัวลงแล้ว เรามีคำตอบที่ตอบข้อสงสัยของคุณในด้านล่าง
DNS query คืออะไร แล้วทำไมเราถึงต้องเข้ารหัสมันด้วย
ทุกครั้งที่คุณเข้าชมเว็บไซต์ คอมพิวเตอร์ของคุณจะส่งคำร้องไปที่เซิร์ฟเวอร์ DNS จากนั้น เซิร์ฟเวอร์ DNS จะส่งที่อยู่ IP ของเว็บไซต์ที่คุณต้องการจะเข้าชม ซึ่งยอมให้คอมพิวเตอร์ของคุณเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ที่เป็นโฮสต์ของเว็บไซต์นั้น นี่เป็นหลักการสำคัญว่าคนเข้าสู่เว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร
แล้วมีปัญหาอะไรในเรื่องนี้ คำตอบคือคุณจะไม่พบปัญหาหากกำลังใช้เทคโนโลยีบางอย่างเพื่อเข้ารหัส DNS query ของคุณ หากไม่ทำอย่างนั้นรัฐบาล แฮกเกอร์ หรือบุคคลที่ 3 อื่นๆ นั้นมาฉวยข้อมูลของคุณไปได้ง่ายๆ และนั่นหมายความว่าใครก็แล้วแต่เข้ามาดูประวัติการเขาเว็บไซต์ของคุณได้
แล้วพวกเขาเข้าดูประวัติของคุณได้อย่างไร หากคุณไม่เข้ารหัส DNS ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณนั้นเข้าถึงประวัติการใช้งานทั้งหมดของคุณ ซึ่งเขาอาจจะส่งมันให้แก่รัฐบาลได้หากถูกขอมา และผู้ให้บริการยังอาจขายข้อมูลให้กับบริษัทโฆษณา ซึ่งจะนำไปให้บริษัทที่คอยยัดเยียดโฆษณามาสู่คุณ
หากคุณให้ความสำคัญแก่ความเป็นส่วนตัว การเข้ารหัส DNS เป็นสิ่งที่ต้องมี
ทางเลือกอื่นแทน DNSCrypt
DNSCrypt นั้นเป็นโปรโตคอลที่ใช้เข้ารหัส DNS query ทั้งหมดของคุณ แต่โชคไม่ดีนักดังที่เรากล่าวไว้ตอนต้นว่าเว็บไซต์นั้นไม่เปิดให้ใช้งานอีกต่อไป นั่นเป็นเรื่องน่าเสียดายว่าเว็บดังกล่าวเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการทำให้ไม่มีใครล่วงรู้ DNS query ของคุณ แต่โชคยังดีที่มีทางเลือกอื่นๆ ให้คุณใช้งานอยู่
นี่เป็นอีก 2 บริการที่เหมือนกันที่คุณสามารถใช้แทน DNSCrypt
• Tenta DNS – นี่เป็นโปรเจกต์ DNS โอเพนซอร์ซที่เปิดให้ใช้งานฟรี บริการนี้ทำให้ผู้ใช้งานเข้ารหัส DNS query ได้ การทำงานของมันนั้นใช้ประโยชน์จากโปรโตคอล DNS-over-TLS ที่ผู้สร้าง DNSCrypt แนะนำให้คนอื่นๆ เปลี่ยนไปใช้แทน ด้วยการใช้ Tenta DNS คุณจะซ่อนประวัติการเข้าเว็บไซต์จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ หรือแม้แต่ Tenta เองก็เข้าดูประวัติของคุณไม่ได้ บริการนี้ยังรองรับ OpenNIC root ที่ทำให้คุณเข้าสู่โดเมน .bit โดยไม่จำเป็นต้องใช้ปลั๊กอินหรือโปรแกรมเพิ่มใดๆ
• DNSCurve – นี่เป็นโปรเจกต์ที่เก่ากว่าที่นำมาใช้แทนที่ DNSCrypt แต่มันยังคงใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเข้ารหัส DNS query มันใช้ประโยชน์จากการเข้ารหัสแบบ elliptical curve เพื่อป้องกันคำร้องของคุณ นี่เป็นมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมกว่าที่บริการอื่นๆ ใช้เป็นส่วนใหญ่ การใช้บริการนี้ทำได้โดยติดตั้ง DNSCurve จากนั้นใช้มันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ OpenDNS และเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าซอฟต์แวร์ทำงานได้ผล ขอให้คุณทำการเช็คการรั่วของ DNS ด้วย (โปรดดูวิธีในด้านล่าง)
คุณยังใช้งาน DNSCrypt-Proxy 2 ได้อยู่
ถึงแม้ว่าเว็บ DNSCrypt.org จะเข้าใช้งานไม่ได้แล้ว Dyne.org นั้นตัดสินใจรับช่วงต่อโปรเจกต์เพื่อ สานต่อและบำรุงรักษา DNSCrypt-Proxy 2 ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซที่ใช้โปรโตคอลดังกล่าว พวกเขาจะยังเก็บมันไว้อยู่เพื่อเปิดใช้งานและยังแก้ไขบั๊กที่อาจเกิดขึ้นด้วย แต่สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาจากโครงการนี้
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าจะเปิดให้ใช้งานอีกนานแค่ไหน ดังนั้นขอให้คิดไว้เสมอว่าหากจะใช้วิธีนี้ในการเข้ารหัส DNS
วิธีที่ดีที่สุดในการเข้ารหัส DNS query
ขณะที่ 3 ทางเลือกด้านบนนั้นจะช่วยปกป้องคุณไม่ให้ใครเห็นประวัติการเข้าเว็บ แต่ว่ามันใช้งานยาก แม้แต่ DNSCrypt ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมก็ยังใช้ยากสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีรูปแบบนี้
โชคดีที่มีวิธีการเข้ารหัสที่ดีกว่าการใช้ DNS query
Virtual private networks (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) หรือ VPN นั้นช่วยให้คุณออนไลน์ได้โดยปกปิดตัวตนของคุณ บริการนี้ไม่เพียงป้องกันผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณเข้ามาดูประวัติการเข้าเว็บของคุณเท่านั้น แต่ยังป้องกันชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่ IP และข้อมูลส่วนตัวสำคัญอื่นๆ อีกด้วย
VPN นั้นเข้ารหัสข้อมูลรับส่งทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของคุณ บริการนี้ยังช่วยให้คุณเข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ทั่วโลก ซึ่งเป็นการช่วยปิดบังตำแหน่งของคุณ และยังช่วยให้คุณลอดผ่านกฎหมายเซ็นเซอร์ที่น่ารำคาญใจ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องคุณในเรื่องความเป็นส่วนตัวขณะที่คุณออนไลน์ และยังมีบริการเสริมอื่นๆ จากผู้ให้บริการ VPN เพื่อทำให้คุณได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีขึ้นอีกด้วย
VPN ที่เราแนะนำสำหรับใช้ในการเข้ารหัส DNS query
VPN เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเข้าอินเทอร์เน็ตและยังปกปิดตัวตนคุณไว้ได้ แต่บริการของ VPN แต่ละเจ้าก็มีประสิทธิภาพแตกต่างกันไป ขณะที่ผู้ให้บริการ VPN บอกว่าบริการของพวกเขาปลอดภัย แต่หลายเจ้าก็ทำ DNS query และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ของคุณรั่ว ดังนั้นก่อนที่จะเลือก VPN สิ่งสำคัญคือคุณต้องค้นคว้าข้อมูลก่อนเสมอ
เพื่อให้คุณค้นคว้าได้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวม VPN เจ้าที่น่าเชื่อถือ ที่ได้รับการทดสอบและพิสูจน์แล้วว่าจะไม่ทำ DNS query ของคุณรั่ว ซึ่งได้แก่
ด้วยการใช้หนึ่งใน VPN เจ้าเหล่านี้ คุณสบายใจได้เลยว่า DNS query และประวัติการเข้าเว็บของคุณนั้นจะไม่ถูกเปิดเผยไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและบุคคลที่ 3 อื่นๆ
จะทดสอบการรั่วของ DNS อย่างไร
เพียงเพราะคุณใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเข้ารหัส DNS หรือใช้งาน VPN แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปลอดภัยอย่างแน่นอน บางครั้ง VPN ก็ทำงานพลาด และทำให้ DNS เกิดการรั่วโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าการเข้ารหัสนั้นทำงานอย่างถูกต้อง เป็นความคิดที่ดีในการตรวจสอบการรั่วของ DNS
มีเว็บไซต์มากมายที่คุณสามารถใช้ตรวจสอบการรั่วไหล แต่เราแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ทดสอบการรั่วไหลของ ExpressVPN ในการทดสอบ เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ และคุณจะได้รับการแจ้งเตือนทันทีหาก DNS query ของคุณรั่วไหล และถ้าหากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ก็ถึงเวลาที่จะหาทางแก้ปัญหาอื่นๆ ในการเข้ารหัสแทน หรือเปลี่ยนมาใช้ VPN ที่แนะนำไว้ด้านบนแทน VPN ที่คุณใช้อยู่