ทำความรู้จัก 5 Eyes, 9 Eyes และ 14 Eyes

Download Astro
Download Astro
2 มิถุนายน 2022
หนึ่งในบริการที่คุณอาจจะนึกถึงหากคุณต้องการเข้าเว็บอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัวไม่ว่าตอนไหนก็คือ VPN เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network) หรือ VPN นั้นเป็นหนึ่งในทางแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดในการคงความเป็นส่วนตัวและปกปิดตัวตนขณะท่องเว็บไซต์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีการกล่าวอ้างอย่างหนักแน่นว่าไม่มีการเก็บประวัติการใช้งาน แต่ VPN หลายๆ เจ้านั้นที่จริงอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐบาลของบางประเทศ นั่นหมายความว่าถึงแม้คุณจะใช้งาน VPN ที่การันตีว่าจะปิดบังตัวตนของคุณ 100% ขณะท่องอินเทอร์เน็ต ก็มีโอกาสสูงที่รัฐบาลคอยสอดส่องกิจกรรมออนไลน์ของคุณ
และเป็นเรื่องจริงที่สุดสำหรับ VPN ที่ตั้งอยู่ในประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม 5 Eyes, 9 Eyes หรือ 14 Eyes
กลุ่ม 5 Eyes คืออะไร
 
ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลของสหรัญอเมริกาและสหราชอาณาจักรนั้นทำสนธิสัญญาที่จะแบ่งปันข้อมูลความรู้ต่อกันและกันเพื่อเป็นผลประโยชน์ในการทำสงคราม
สนธิสัญญาดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า USUK Agreement ที่อยู่ภายใต้โปรแกรมการควบคุมดูแลที่เรียกว่า Echelon นี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลกิจกรรมออนไลน์ของสหภาพโซเวียตและจีน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่ม 5 Eyes
หลังสงครามสิ้นสุด โปรแกรมดังกล่าวก็เลิกใช้เพื่อประโยชน์ทางการทหาร อย่างไรก็ตามสนธิสัญญาของทั้งสองประเทศยังดำเนินอยู่เพื่อตั้งระบบในการสอดส่องกิจกรรมออนไลน์ของประชาชนทั่วโลก
และต่อมา แคนาดา นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ก็เข้ามาร่วมกลุ่มควบคุมดังกล่าว รวมแล้วกลายเป็น 5 ประเทศ ซึ่งรู้จักกันในชื่อของ กลุ่ม 5 Eyes สมาชิกของแต่ละประเทศนั้นมีหน่วยงานหลายหน่วยงานที่ทำการควบคุมดูแลข้อมูลออนไลน์ที่รวมอยู่ด้วยกัน วิเคราะห์ และแบ่งปันกันในระหว่างประเทศสมาชิก
ยกตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอมเริกานั้นมี FBI, CIA และ NSA เป็นหน่วยงานหลักซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสอดส่องของ 5 Eyes
 
5 Eyes ทำงานอย่างไร
ประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม 5 Eyes นั้นผ่านกฎหมายและการบังคับใช้ที่ทำให้รัฐบาลมีสิทธิในการเข้าถึงกิจกรรมออนไลน์ของประชาชน ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะใช้บริการ VPN ที่ตั้งอยู่ใน 5 ประเทศสมาชิก 5 Eyes รัฐบาลของคุณก็สามารถแกะรอยด้วยการบังคับให้ VPN เจ้าที่คุณมอบข้อมูลประวัติการใช้งานผ่านการเข้ารหัส SSL อยู่ดี
ที่จริงแล้ว นี่เป็นวิธีที่รัฐบาลของสหรัฐฯ ใช้ตรวจจับกิจกรรมของ Edward Snowden ถึงแม้ว่า Snowden จะใช้ VPN แต่รัฐบาลของสหรัฐฯ ก็ขอให้ FBI ออกหมายศาลเพื่อจะบังคับให้ VPN มอบประวัติการใช้งานและกิจกรรมออนไลน์ของ Snowden
รัฐบาลของสหรัฐฯ นั้นดำเนินงาน PRISM Program ที่รัฐบาลสามารถรวบรวมข้อมูลจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตนับร้อยทั่วทั้งประเทศ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตนั้นยังได้รับสิทธิ์ทางกฎหมายในการขายข้อมูลกิจกรรมของผู้ใช้งานให้แก่บุคคลที่สาม
มาพูดถึงประเทศอังกฤษกันบ้าง รัฐบาลนั้นมีความโปร่งใสในเรื่องกิจกรรมการควบคุมสอดส่องมากกว่า แต่ก็มีมาตรการที่เท่าเทียมสหรัฐฯ ในเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัว รัฐบาลของอังกฤษผ่านกฎหมายที่เรียกว่า “Investigatory Powers Act, 2016” และด้วยกฎหมายนี้ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและบริษัทให้บริการโทรศัพท์ทั้งประเทศต้องบันทึกประวัติการใช้งานของผู้รับบริการ
ข้อมูลเหล่านี้ถูกรัฐบาลเค้นออกมาตอนไหนก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือรับรองหรือหมายศาล ออสเตรเลียนั้นก็มีกฎหมายลักษณะดังกล่าวเช่นกัน ที่ทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศต้องบันทึกข้อมูลของผู้ใช้งาน ซึ่งรัฐบาลจะเรียกดูตอนไหนก็ได้
 
กลุ่ม 9 Eyes คืออะไร
กลุ่ม 9 Eyes นั้นเป็นกลุ่มของประเทศ 9 ประเทศที่ได้เข้าร่วมสนธิสัญญาในการบันทึกและแชร์ข้อมูลการตรวจตราของทั่วโลก ในระหว่างประเทศร่วมสัญญา กลุ่มนี้ประกอบด้วยประเทศของกลุ่ม 5 Eyes และร่วมด้วยเดนมาร์ค ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ ขอบเขตและรูปแบบกิจกรรมของกลุ่ม 9 Eyes นั้นแทบจะเหมือนกับกลุ่ม 5 Eyes และถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่ขยายมาจากพันธมิตรของ 5 Eyes
 
 
กลุ่ม 14 Eyes คืออะไร
เป็นกลุ่มที่อยู่ในทวีปยุโรปแทบทั้งหมด แต่ยังรวมสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ไว้ด้วย กลุ่ม 14 Eyes นั้นรู้จักในชื่ออย่างเป็นทางการว่า SIGINT Seniors Europe (SSEUR) ซึ่งเป็นการขยายตัวของกลุ่ม 9 Eyes และรวมสมาชิกเพิ่มเติมได้แก่ เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี สวีเดน และสเปน
สนธิสัญญาเกี่ยวกับการควบคุมสอดส่องดั้งเดิมที่เคยเซ็นระหว่างสหรัฐฯ และอังกฤษ ตอนนี้แผ่ขยายไปใช้ใน 14 ประเทศด้วยเช่นกัน ภายใต้สนธิสัญญานี้ ประเทศกลุ่ม 14 Eyes ไม่สามารถนำข้อมูลที่สอดส่องเพื่อการล้วงข้อมูลของประเทศอื่นๆ ในกลุ่มได้ แต่พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลของประชาชนประเทศตนที่รวบรวมมาจากกลุ่มสมาชิกประเทศอื่นในกลุ่มได้
 
 
ประเทศเพิ่มเติม
หลายๆ ประเทศถึงแม้ว่าจะไม่อยู่ในรายชื่อสมาชิกกลุ่มอย่างเป็นทางการ แต่ก็ถือว่าเป็นประเทศที่น่าสงสัยที่จะถูกควบคุมดูแลกิจกรรมออนไลน์ ยกตัวอย่างประเทศอิสราเอลนั้นเป็น “ผู้สังเกตอย่างเป็นทางการ” ของกลุ่ม 5 Eyes และทำงานกับ NSA ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด
เช่นเดียวกัน ประเทศอย่างสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น นั้นถูกรายงานว่ามีการสอดส่องจากประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐฯ และอังกฤษ ถึงแม้ว่าจะไม่อยู่ในรายชื่ออย่างเป็นทางการ
 
คุณจะหลีกเลี่ยงจากการถูกสอดส่องผ่านทาง VPN ได้อย่างไร
VPN แบบเรียบๆ นั้นให้การปกป้องที่จำกัดมากๆ สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์ ถึงแม้ว่า VPN อาจจะมีนโยบาย “ไม่บันทึกประวัติการใช้งาน” แต่ก็ด้วยกฎหมายของประเทศที่ตั้งบริษัทที่สามารถบังคับให้ส่งข้อมูลจากคำสั่งศาลได้ ผู้ใช้งานบางคนเลยเลือก VPN ที่อยู่ภายนอกประเทศ ดังเช่น VPN ที่มีที่ตั้งอยู่นอกประเทศที่มีการควบคุมดูแล อย่างไรก็ตามนั่นก็ยังไม่อาจแก้ไขปัญหานี้ได้เพราะนโยบายความเป็นส่วนตัวของ VPN เจ้านั้นๆ ยิ่งเหมือนเป็นกับดักและออกแบบมาหลอกลวงผู้ใช้งาน
คำแนะนำของเราคือการใช้ VPN แบบ multi-hop ที่กิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้งานจะไม่ผ่านเพียงแค่ VPN เดียวแต่กระโดดข้ามหลายครั้งก่อนเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต นี่เพิ่มระดับการป้องกันให้แก่ผู้ใช้งาน และมั่นใจได้ว่าหากรัฐบาลต้องการสอดส่องกิจกรรมออนไลน์ พวกเขาก็พบว่ามันลำบากที่จะรวบรวมข้อมูลให้เป็นแหล่งเดียวกัน VPN แบบ multi-hop ที่เราแนะนำมากคือ
Perfect Privacy ที่ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ NordVPN ที่ตั้งอยู่ในประเทศปานามา และ Zorro VPN ที่ตั้งอยู่ในประเทศเบลีซ