ตั้งแต่นักศึกษาที่ใช้ Google เพื่อการทำวิจัยโปรเจกต์จนถึงคนที่ใช้ Yahoo หรือ Bing เพื่อค้นหาข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับแวดวงที่เขาทำงาน หากบอกว่าเสิร์ชเอนจินนั้นสำคัญมากก็ถือว่าไม่ได้พูดเกินจริง
แต่เสิร์ชเอนจินยอดนิยมเหล่านี้ก็ไม่ได้เพียงช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเพียงอย่างเดียว มันมาพร้อมกับราคาที่คุณต้องจ่ายเพื่อแลกกับความสะดวกด้วย
ขณะที่ช่วยค้นหาข้อมูลให้กับผู้ใช้งาน เสิร์ชเอนจินยอดนิยมเหล่านี้ยังรวบรวมข้อมูลของผู้ที่ใช้งานของเขา และขณะเราที่ใช้บริการ เสิร์ชเอนจินดังกล่าวจะบันทึกทุกอย่างที่คุณค้นหา รวมถึงที่อยู่ IP คำที่ใช้ค้นหา และข้อมูลอื่นๆ อีกด้วย
หลังจากนั้น พวกเขาใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาปรับแต่งให้ขึ้นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคุณในครั้งต่อๆ ไปทุกครั้งที่คุณพิมพ์คำค้นหาลงในเสิร์ชเอนจินของเขา ข้อมูลนั้นจะถูกใช้คาดการณ์ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน อย่างเช่น พฤติกรรมการคลิกก่อนหน้า ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ ประวัติการค้นหา และตำแหน่งของผู้ค้นหา และด้วยเหตุผลนี้ เว็บไซต์ต่างๆ เลยโชว์แต่ข้อมูลเช่นโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมย้อนหลังของผู้ใช้งาน หากคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับตัวกรองสิ่งที่เราสนใจ (filter bubble) นี่คือคำอธิบายถึงกลไกการทำงานของมัน
ข้อดีคือ ส่วนใหญ่แล้วมันจะช่วยทำให้คุณพบกับข้อมูลที่คุณมองหาได้ง่ายขึ้น แต่ข้อเสียก็คือการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นอาจจะทำให้คุณตกเป็นเหยื่อของพวกโฆษณา และข้อมูลอาจจะถูกขายให้แก่บริษัทบุคคลที่สาม
แล้วคุณจะหลีกเลี่ยงปัญหานี้ไม่อย่างไร จากการสอดส่องทางกฎหมายที่มีมากขึ้น การละเมิดความเป็นส่วนตัวและการแจกจ่ายข้อมูลจึงกลายเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วง คุณจะปกป้องตนเองเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในขณะที่ยังค้นหาข้อมูลได้อย่างประสิทธิภาพได้อย่างไร
ใช้ VPN
เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network; VPN) นั้นคือการโคลนเครือข่ายในพื้นที่ของคุณ ซึ่งต่อมาจะขยายไปสู่เครือข่ายสาธารณะซึ่งก็คืออินเทอร์เน็ต บริการนี้มาในรูปแบบของซอฟต์แวร์ และเชื่อมต่อคุณเข้ากับเซิร์ฟเวอร์ VPN ทางอินเทอร์เน็ตซึ่งส่งข้อมูลทั้งหมดของคุณโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นคนส่งไปยังปลายทางที่คุณต้องการ
ออกจากระบบอยู่เสมอ
หากคุณเป็นผู้ใช้บริการจากเว็บไซต์อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นบริการของเสิร์ชเอนจินเหล่านั้น ก่อนที่คุณจะใช้เสิร์ชเอนจินให้คุณออกจากระบบจากเว็บไซต์เสียก่อน นี่เหมือนเป็นเรื่องยุ่งยากแต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัว
ไม่ว่าจะเป็นบริการคลาวด์ อีเมล หรือแผนที่ หากคุณยังอยู่ในระบบและใช้งานเสิร์ชเอนจินจะทำให้เสิร์ชเอนจินเชื่อมโยงข้อมูลค้นหาของคุณไปยังชื่อและที่อยู่หรือบัญชีอีเมลของคุณ
ใช้เสิร์ชเอนจินที่เน้นความเป็นส่วนตัว
นี่เป็นอีกหนึ่งทางเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวขณะที่ค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร เสิร์ชเอนจินที่เน้นความเป็นส่วนตัวนั้นทำงานเหมือนกับเสิร์ชเอนจินอื่นๆ ที่คุณรู้จัก ยกเว้นเพียงแค่เสิร์ชเอนจินเหล่านี้ไม่เก็บ สะสม หรือครอบครองข้อมูลขณะที่คุณค้นหาเหมือนกับเสิร์ชเอนจินยอดนิยมอื่นๆ
เมื่อคุณค้นหาด้วยการใช้เสิร์ชเอนจินเหล่านี้ การค้นหาของคุณจะไม่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์และบัญชีอีเมลของคุณ นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ข้อมูลจากการค้นหานั้นไม่ถูกนำไปใช้กับพวกบริการโฆษณาที่คอยพยายามขึ้นให้คุณเห็น
เช่นเดียวกับ VPN ที่มีหลากหลายเจ้าอย่างอย่าง ExpressVPN และ NordVPN เสิร์ชเอนจินแบบเน้นความเป็นส่วนตัวก็มีหลากหลายเจ้าให้เลือกใช้ แต่เสิร์ชเอนจินที่ค้นหาได้โดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะรู้ตัวตนเจ้าไหนที่ดีที่สุดสำหรับปี 2019
1. DuckDuckGo
ตามข้อมูลจากวิกิพีเดีย DuckDuckGo (DDG) นั้นเป็นเสิร์ชเอนจินที่ให้ความสำคัญในการปกป้องผู้ใช้งานในด้านความเป็นส่วนตัว และหลีกเลี่ยงการใช้ตัวกรองสิ่งที่เราสนใจ (filter bubble) สำหรับการค้นหาอย่างเป็นส่วนตัวนั้น Gabriel Weinberg ผู้ก่อตั้งเสิร์ชเอนจินเจ้านี้เคยกล่าวไว้ว่า “เราปกป้องประวัติการค้นหาของคุณ แม้แต่จากเราเองก็ตาม”
DuckDuckGo บรรยายสรรพคุณบริการว่าเป็น “เสิร์ชเอนจินที่ไม่เก็บประวัติของคุณ” มันคือเสิร์ชเอนจินที่สัญญาว่าจะไม่ใช้คุกกี้เพื่อติดตาม และบอกว่าจะไม่รวบรวมข้อมูลส่วนตัวของคุณขณะใช้งาน แม้แต่ที่อยู่ IP ของคุณก็ยังถูกซ่อน
นอกจากจะให้ผู้ค้นหานั้นซ่อนตัวตนขณะใช้งานแล้ว เซิร์ฟเวอร์ของ DuckDuckGo นั้นยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจได้แก่ มีเนื้อที่คลาวด์ฟรีใช้เก็บข้อมูลของคุณ ในขณะที่ผู้ใช้งานเปลี่ยน “การตั้งค่า” ของตำแหน่ง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทำให้ไม่สามารถแกะรอยการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ตของคุณได้ หากคุณกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์การค้นหา DuckDuckGo ค้นหาผลลัพธ์จาก 400 แหล่ง ซึ่งรวมถึง Wikipedia และ Yahoo ด้วย
2. Startpage
หากคุณกำลังมองหาบริการที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียง Google แต่ไม่กระทบต่อความเป็นส่วนตัว Startpage นั้นเป็นเสิร์ชเอนจินที่เน้นความเป็นส่วนตัวที่คุณควรใช้ ด้วยระบบทางเลือกตัวคัดกรองที่ล้ำหน้า และความสามารถในการค้นหาภาพและวิดีโอ เสิร์ชเอนจินเจ้านี้ดีกว่าเจ้าอื่นๆ ที่คุณจะหาได้ทางอินเทอร์เน็ต
ผลลัพธ์การค้นหาที่ได้จาก Startpage นั้นมาพร้อมกับลิงก์ที่ใช้พร็อกซีสำหรับการเข้าไปชมเว็บ โดยการกลไกการค้นหาของเสิร์ชเอนจินนี้ใช้อยู่ในรูปแบบเดียวกับพร็อกซีทั่วไป เมื่อคุณป้อนคำค้นหาเพื่อใช้งาน ที่อยู่ IP ของคุณจะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อการค้นหานั้น แต่จะที่อยู่ IP จะถูกเปลี่ยนเพื่อการค้นหาโดยเฉพาะ
ในส่วน “เกี่ยวกับเรา” ของเว็บไซต์ดังกล่าว แสดงไว้ชัดเจนว่าพวกเขาไม่รวบรวมและแชร์ข้อมูลส่วนตัวใดๆ
3. Disconnect Search
แค่ดูสโลแกนของเจ้านี้ว่า “หยุดเสิร์ชเอนจินไม่ให้แกะรอยการค้นหาของคุณ” ก็ทำให้คุณเห็นภาพของบริการเจ้านี้แล้ว โดยเสิร์ชเอนจินเจ้านี้ใช้วิธีตัดการเชื่อมโยงจากเว็บไซต์หรืออินเทอร์เฟซที่มีสิทธิ์ในการแกะรอย (ไม่ว่ารอยจากมือหรือเท้าที่คุณใช้ท่องเน็ต) ที่คุณทิ้งไว้ตอนออนไลน์
ถึงแม้ว่าหลัก ๆ แล้วมันเป็นเครื่องมือค้นหาบนบราวเซอร์ แต่คุณยังสามารถใช้งานการค้นหาแบบไม่เชื่อมต่อ (Disconnect Search) ผ่านทางเว็บไซต์ของเขาได้ มันเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีอยู่เพียงไม่กี่รายที่มีบริการ VPN และมีบราวเซอร์ของตนเองเพื่อเป็นเครื่องมืออีกชนิดในการสร้างความเป็นส่วนตัว
คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้จากเสิร์ชเอนจินที่เน้นความเป็นส่วนตัวนี้เพราะแหล่งข้อมูลนั้นมาจากเสิร์ชเอนจินหลักๆ เจ้าอื่น
เสิร์ชเอนจินที่เน้นความเป็นส่วนตัวที่ยกมานี้ไม่ได้เรียงลำดับว่าเจ้าไหนดีกว่าเจ้าไหน ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ของเจ้าใด คุณจะได้รับผลลัพธ์แบบเป็นกลาง และคอยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ ที่ทำให้มั่นใจว่าคุณจะออนไลน์ได้อย่างเป็นส่วนตัว