10 อันดับ VPN ที่ให้ความเร็วสูงสุด

Download Astro
Download Astro
7 มิถุนายน 2022
VPN นั้นเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและข้อมูลออนไลน์ของคุณ แต่ข้อเสียคือมันมักจะทำให้อุปกรณ์ของคุณทำงานช้าลง และการเข้ารหัสของ VPN บางครั้งจะทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณช้าลงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม VPN เจ้าที่ดีนั้นมักจะมีผลเสียด้านนี้น้อยที่สุด และจริงๆ แล้วใน VPN คุณภาพสูงบางเจ้าเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ด้วยซ้ำ
หากคุณใช้ VPN เพื่อสตรีมหรือดาวน์โหลดรายการหรือเนื้อหา คุณจะต้องมั่นใจว่า VPN ที่คุณใช้นั้นไม่กระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์ที่คุณใช้ นี่เป็นรายชื่อ VPN ที่เร็วที่สุด 10 เจ้าที่ยังเปิดให้บริการ
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: 3,239 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: 33 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 5 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: สหรัฐอเมริกา
Private Internet Access นั้นมักจะขึ้นในอันดับต้นๆ ของ VPN ที่มีความเร็วสูงสุดในการจัดอันดับจากหลายแห่ง ความเร็วอินเทอร์เน็ตของเจ้านี้สูงมากๆ แต่นั่นไม่ใช่แค่ข้อดีเดียวที่บริการของเจ้านี้เสนอให้แก่ผู้รับบริการ เซิร์ฟเวอร์ของ Private Internet Access นั้นรองรับการใช้งาน torrent และการเชื่อมต่อแบบ P2P ดังนั้นคุณจึงใช้ประโยชน์จากความเร็วสูงสุดเหล่านี้ขณะที่กำลังดาวน์โหลดหนังหรือรายการทีวีไปด้วย นอกจากนี้ Private Internet Access ยังมีนโยบายเรื่องการไม่เก็บประวัติการใช้งานอย่างรัดกุม
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: 5,092 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: 62 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 6 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: ปานามา
ถึงแม้ว่าความเร็วอาจจะสู้ Private Internet Access ไม่ได้ แต่ NordVPN ก็ยังเป็นหนึ่งในบริการ VPN ที่ให้ความเร็วสูงสุด บริการเจ้านี้ยังมีข้อได้เปรียบหลายอย่างหากเทียบกับ Private Internet Access ได้แก่ การมีจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่เยอะกว่า และมีตำแหน่งที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายกว่า นอกจากนี้ NordVPN ยอมให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์พร้อมกันหลายเครื่องกว่า ในบรรดา VPN ทั้งหมดในรายชื่อที่เรายกมา NordVPN นั้นอาจถึงว่าเป็นผู้ให้บริการที่มีความสามารถรอบด้านที่สุด
ExpressVPN
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 2,000 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: 94 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 3 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: หมู่เกาะบริติสเวอร์จิน
ถึงแม้ว่า ExpressVPN จะไม่ใช่ VPN ที่เร็วที่สุดในรายชื่อที่เรายกมา แต่การทดสอบได้แสดงให้เห็นว่า มันมีความเร็วที่คงเส้นคงวาที่สุด ขณะที่ VPN เจ้าอื่นนั้นอาจจะมีการขึ้นลงของความเร็วขึ้นอยู่กับเซิร์ฟเวอร์ที่คุณกำลังใช้อยู่ แต่ ExpressVPN ให้ความเร็วคงที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้บริการของเจ้านี้ยังมีตำแหน่งที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์หลากหลายแห่ง ซึ่งทำให้สามารถใช้มันเข้าถึงเนื้อหาได้มากกว่าหลายๆ เจ้า
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: 2,960 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: 59 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 7 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: โรมาเนีย
CyberGhost นั้นมุ่งเน้นในเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต ถึงขั้นที่มันพ่วงฟีเจอร์ “Extra Speed” มาด้วยด้วย ซึ่งทำให้คุณมั่นใจได้เสมอว่าจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดที่เปิดใช้งาน CyberGhost ยังเป็นที่รู้จักในด้านอินเทอร์เฟซของผู้ใช้งานที่ใช้งานง่าย หน่วยบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม และค่าบริการที่ไม่แพงจนเกินไป
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 1,000 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 60 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 5 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: สหรัฐอเมริกา
ขณะที่ผู้ให้บริการ VPN หลายเจ้าเช่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้บริการ แต่ IPVanish นั้นเป็นเจ้าของและคอยดำเนินการ VPN ของตัวเอง นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เจ้านี้คงความเร็วสูงของอินเทอร์เน็ตไว้ได้ นอกจากเรื่องนี้แล้ว VPN เจ้านี้ยังมีระบบเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยมและมีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากในหลากหลายตำแหน่งให้เลือกใช้
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: 70 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 3-5 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: สวิตเซอร์แลนด์
VyprVPN นั้นเป็นผู้ให้บริการอีกเจ้าที่มีเซิร์ฟเวอร์เป็นของตนเองเช่นเดียวกับ IPVanish ซึ่งช่วยให้ VPN เจ้านี้บำรุงรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ไว้ได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการ นอกจากนี้ VyprVPN ยังเป็นที่รู้จักในความสามารถด้านการปลดบล็อครายการบน Netflix ด้วยผลดีข้อนี้ผสานกับกับความเร็วที่สูง ทำให้บริการเจ้านี้เป็นที่นิยมกับผู้ที่ใช้งานสตรีมมิ่งเป็นหลัก
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 1000 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 20 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 5 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: แคนาดา
นอกจากจะให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงมากแล้ว TunnelBear ยังมีชื่อเสียงว่าเป็น VPN ที่เหมาะกับผู้ใช้งาน VPN เป็นครั้งแรก แอปและอินเทอร์เฟซของเจ้านี้ใช้งานง่ายมาก และยังมีหน่วยบริการลูกค้าที่ดีที่สุดในวงการนี้ นอกจากนี้ TunnelBear ยังมีเวอร์ชันฟรี คุณจึงสามารถทดสอบฟีเจอร์ของ VPN นี้ก่อนที่จะตัดสินใจว่าคุณจะใช้บริการแบบพรีเมียมแทนหรือไม่

จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 400 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 70 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 15 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: สหรัฐอเมริกา
VPN Unlimited นั้นมีดีมากกว่าแค่เรื่องความเร็ว มันยังใช้ในการปลดบล็อคเนื้อหาใน Netflix และยอมให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 15 เครื่อง นั่นหมายความว่าครอบครัวของคุณใช้บริการ VPN เจ้านี้เพียงบัญชีเดียวในการสตรีมด้วยความเร็วสูงได้ในอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมๆ กัน ข้อเสียคือมันมีจำนวนเซิร์ฟเวอร์น้อยหากเทียบกับ VPN เจ้าอื่นในรายการที่เราเลือกมา
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 800 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 45 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 5 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: สหราชอาณาจักร
Hide My Ass นั้นได้รับความความนิยมจากเหตุผลหลักๆ คือความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงและเซิร์ฟเวอร์ของมันยังใช้ในการ torrent ได้อีกด้วย และด้วยเหตุผลนี้ หากคุณใช้การดาวน์โหลดแบบ P2P บ่อยๆ VPN เจ้านี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี Hide My Ass ยังเสนอระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมขณะที่ราคาถือว่าไม่แพงหากเทียบกับข้อดีที่ได้รับ
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 750 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 140 ประเทศ
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้พน้อมกัน: 10 เครื่อง
ประเทศ/เขตกฎหมายที่ควบคุม: ฮ่องกง
หากคุณกำลังมองหา VPN ที่เข้าถึงเนื้อหาได้หลากหลายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ PureVPN นั้นอาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะของคุณ นอกจากการให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงแล้ว เจ้านี้ยังมีที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ที่มากถึง 140 ประเทศทั่วโลก ด้วยความเร็วที่ดีเยี่ยมรวมถึงความสามารถในการเข้าถึงเนื้อหาจากประเทศที่ถูกบล็อคได้หลากหลาย PureVPN จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ยอดเยี่ยม