IPv4 and IPv6 คืออะไร และทำไมเราถึงต้องสนใจด้วย

Download Astro
Download Astro
2 มิถุนายน 2022
 
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานี้ อินเทอร์เน็ตนั้นนั้นเปลี่ยนประเภทของโปรโตคอลจาก IPv4 มาเป็น IPv6 แม้คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ว่าเรื่องนี้มีผลกระทบสำคัญกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต แล้วทำไมอินเทอร์เน็ตถึงต้องมีการเปลี่ยนโปรโตคอล และทำไมเราถึงต้องใส่ใจกับเรื่องนี้ด้วย
 
บทความนี้จะตอบทุกคำถามด้านบน และสิ่งที่คุณต้องรู้โดยคร่าวเกี่ยวกับ IPv4 และ IPv6
 
อินเทอร์เน็ตโปรโตตอลคืออะไร
 
 
อินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (Internet Protocol; IP) นั้นเป็นโปรโตคอลเพื่อการสื่อสารหลักที่ถูกใช้ในอินเทอร์เน็ต ในการส่งข้อความหรือข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปสู่อีกอุปกรณ์หนึ่ง หรือพูดง่ายๆ คือ อินเทอร์เน็ตโปรโตคอลคือสิ่งที่ทำให้อินเทอร์เน็ตทำงานได้
อุปกรณ์ทุกประเภทที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลเพื่อการสื่อสารนั้นจะได้รับที่อยู่ IP (IP address) คุณอาจจะคิดว่าที่อยู่ IP คือที่อยู่ของคอมพิวเตอร์ของคุณก็ได้ และมองว่าอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลนั้นเป็นเหมือนเทคโนโลยีที่เทียบได้กับบริการไปรษณีย์ ที่อยู่ IP ของคุณจะเป็นสิ่งที่ทำให้อินเทอร์เน็ตโปรโตคอลรู้ว่ากิจกรรมต่างเช่น การส่งจดหมาย การร้องขอเว็บไซต์ และข้อมูลทั้งหลายที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นจะถูกส่งไปยังที่ใด
 
IPv4 คืออะไร
 
IPv4 นั้นคืออินเทอร์เน็ตโปรโตคอลเวอร์ชันที่ 4 และเป็นโปรโตคอลหลักที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตยังใช้งานอยู่ คุณอาจคิดว่า IPv4 นั้นเพิ่งพัฒนามาไม่นาน แต่จริงๆ แล้วมันถูกเริ่มใช้งานครั้งแรกตั้งแต่ ค.ศ. 1983
 
ถึงแม้จะใช้งานมานานมาก แต่ IPv4 ก็ยังทำงานได้ดี ดังนั้นหากเทคโนโลยีดังกล่าวยังตอบสนองความต้องการของเราได้ แล้วจะไปเปลี่ยนมันทำไม
 
ก็เพราะว่า IPv4 นั้นมีปัญหาสำคัญหลักๆ 1 ข้อก็คือ เราไม่มีที่อยู่ IP เหลือให้ใช้แล้ว
 
IPv4 นั้นใช้ตัวเลข 32 บิตเป็นที่อยู่ IP ซึ่งหมายความว่าเรามีที่อยู่ IP ทั้งหมด 4 พัน 3 แสนล้านแบบ ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นตัวเลขมหาศาล แต่หากคุณนึกถึงประชากรโลกปัจจุบันซึ่งมีราวๆ 7 พัน 6 แสนล้านคน คุณจะพบเหตุผลว่าทำไมที่อยู่ IP นั้นถึงมีไม่พอใช้
 
อุปกรณ์ทุกเครื่องต้องการที่อยู่ IP ของมันเอง และผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตแทบทุกคนมีอุปกรณ์มากกว่า 1 เครื่อง และยิ่งมีคนเข้ามาใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทุกวัน ก็ขึ้นกับเวลาแล้วว่าเราจำเป็นต้องหาโปรโตคอลอื่นมาแทน IPv4 เมื่อใด
 
โชคดีที่เรามีเทคโนโลยีใหม่มารองรับแล้ว และที่จริงมีเทคโนโลยีดังกล่าวมารองรับตั้ง 20 ปีมาแล้ว
 
 
IPv6 คืออะไร
 
ย้อนไปใน ค.ศ. 1995 เทคโนโลยี IPv6 นั้นถูกสร้างเพื่อแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่ IP เทคโนโลยีนี้เสร็จสิ้นใน ค.ศ. 1998 และจากนั้นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็ค่อยๆ ย้ายไปสู่โปโตคอลใหม่
 
ข้อแตกต่างที่เห็นชัดที่สุดระหว่าง IPv4 และ IPv6 คือ IPv6 นั้นใช้ที่อยู่ IP ระบบ 126 บิต นั่นหมายความว่ามีที่อยู่ IP ที่แตกต่างกันได้ถึง 340 คูณกับ 10 ยกกำลัง 36 (360 undecillion) ที่อยู่ นั่นเป็นที่อยู่ที่มหาศาลจนแทบไม่จำกัด เราไม่ต้องกังวลเรื่องที่อยู่ IP ไม่พอไปอีกนานแสนนาน
 
นอกจากเราจะไม่ต้องห่วงเรื่องที่อยู่ IP แต่ด้วยปริมาณที่อยู่ IP ที่พร้อมให้อุปกรณ์ทุกเครื่องมีที่อยู่ IP ของตัวเอง ในปัจจุบันเนื่องจากเรายังใช้ IPv4 ซึ่งที่อยู่ IP ขาดแคลน อุปกรณ์ส่วนใหญ่ใช้ที่อยู่ IP ร่วมกัน นั่นหมายความว่าแทบจะทุกครั้งที่ข้อมูลไม่ได้ถูกส่งถึงอุปกรณ์โดยตรง แต่ส่งเข้าสู่เราเตอร์จากนั้นค่อยส่งต่อไปยังอุปกรณ์แทน
 
IPv6 นั้นยังมียังมีข้อดีอีกมากหากเทียบกับ IPv4 โดยรวมแล้วมันมีประสิทธิภาพมากกว่า มีฟังก์ชั่นเรื่องเส้นทางที่ดีกว่า และให้การสนับสนุนเครือข่ายแบบ Peer-to-peer ที่ดีกว่า
 
ถ้าเช่นนั้นทำไมถึงใช้เวลาเปลี่ยนโปรโตคอลนานนัก สาเหตุส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่าย การจะเปลี่ยนไปใช้ IPv6 นั้นจำเป็นต้องใช้ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ นอกจากนี้ IPv6 นั้นไม่รองรับระบบ IPv4 ดังนั้นหากคุณอยากให้เว็บไซต์ของคุณทำงานใน IPv6 คุณต้องสร้างเวอร์ชันที่รองรับโปรโตคอล IPv6 และ IPv4 แยกต่างหากกัน
 
ในปัจจุบัน บัญชีที่ใช้ IPv6 นั้นมีเพียงแค่ 10% ของปริมาณข้อมูลรับส่งทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด การใช้งานค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรในการทีจะย้ายอินเทอร์เน็ตทั้งระบบไปใช้เทคโนโลยีใหม่
 
 
คุณจะใช้งาน IPv6 ได้อย่างไร
 
คุณอาจจะกำลังใช้ IPv6 อยู่แล้วก็ได้ วิธีตรวจสอบคือไปที่เว็บ www.test-ipv6.com เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์แล้ว มันจะเริ่มทำการตรวจสอบ หากคุณได้รับข้อความว่า “No IPv6 addresses detected” (ไม่พบที่อยู่ระบบ IPv6) นั่นหมายความว่าคุณใช้ IPv4 อยู่
 
หากคุณสนใจที่จะสลับไปใช้ IPv6 คุณจำเป็นต้องเลือกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีบริการเลือกโปรโตคอลดังกล่าว นอกจากนี้คุณจำเป็นต้องใช้เราเตอร์ที่สนับสนุน IPv6 ด้วย ลองหาข้อมูลว่ามีผู้ให้บริการเจ้าไหนและมีฮาร์ดแวร์อะไรที่รองรับ IPv6 หรือไม่ หากไม่ ลองหาตัวเลือกอื่น ขั้นตอนการเชื่อมต่อนั้นอาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและเราเตอร์ของคุณ
 
 
IPv6 ส่งผลต่อ VPN ของคุณอย่างไร
 
เช่นเดียวกับที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนไปใช้ IPv6 อย่างเชื่องช้า บริการ VPN เองก็เช่นกัน ผู้ให้บริการ VPN ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้เทคโลยีใหม่นี้ ซึ่งทำให้เกิดการรั่วไหลจากการใช้ IPv6 ที่ข้อมูลรับส่งของคุณนั้นใช้เส้นทางของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แทนที่จะใช้ของ VPN และด้วยเหตุนี้ ผู้ให้บริการ VPN มักจะแนะนำให้คุณปิดการรับส่งด้วย IPv6 เพื่อป้องกันการรั่วไหลนี้
 
หากคุณต้องการดูว่า VPN ที่คุณใช้ทำให้ที่อยู่ IP ของคุณหรือไม่ ลองเข้าเว็บ IPleak.net ก่อนอื่นให้ตัดการเชื่อมโยงจาก VPN ก่อนจากนั้นค่อยเข้าเว็บไซต์ดังกล่าว ที่อยู่ IP ที่ขึ้นบนเว็บคือที่อยู่ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ จดเลขดังกล่าวไว้ จากนั้นเชื่อมต่อกับ VPN และเข้าเว็บไซต์อีกครั้ง หากคุณพบว่าที่อยู่ IP ยังเป็นที่อยู่เดิม นั่นหมายความว่าที่อยู่ IP ของคุณรั่วไหลขณะใช้ VPN นั้น
 
VPN เจ้าที่ไม่ทำข้อมูลที่ใช้ IPv6 รั่วไหล
 
ดังที่เคยกล่าวไว้ในหัวข้อที่แล้ว หาก VPN เจ้าไหนไม่ได้อัพเดตเทคโนโลยีให้เข้ากับ IPv6 คุณเพียงแค่ปิดการรับส่งข้อมูลประเภทดังกล่าวจากอุปกรณ์ของคุณ แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ แต่คุณมั่นใจได้ว่าที่อยู่ IP ของคุณจะไม่รั่วไหล
 
คุณอาจจะพิจารณาใช้ VPN เจ้าที่รองรับข้อมูลการรับส่งที่ใช้ IPv6 ณ ปัจจุบัน มี VPN เพียงแค่ 3 เจ้าที่รองรับ IPv6 ได้แก่
 
• Mullvad
• FrootVPN
 
คุณยังสามารถเลือก VPN ที่ป้องกันการรั่วของที่อยู่ IP ที่เกิดจาก IPv6 ถึงแม้ว่า VPN เหล่านี้จะไม่ได้รองรับข้อมูลรับส่งที่ใช้ IPv6 จริงๆ แต่พวกเขามีมาตรการการรักษาความปลอดภัยเพื่อความมั่นใจว่าข้อมูลที่ใช้ IPv6 จะไม่รั่วไหล
 
เราขอแนะนำ VPN ทั้ง 10 เจ้าด้านล่างที่ผ่านการทดสอบและยืนยันแล้วว่าไม่พบการรั่วไหลของข้อมูลที่ใช้ IPv6
 
 
โชคไม่ดีนัก หากคุณใช้บริการ VPN เจ้าอื่นนอกเหนือจาก VPN 3 เจ้าที่รองรับการรับส่งข้อมูลด้วย IPv6 คุณจะไม่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี IPv6 แต่เราหวังว่าถึงจะช้าแต่ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่นาน และเราจะมี VPN เจ้าอื่นๆ ที่รองรับ IPv6 เพิ่มในอนาคต