VPN ฟรีที่ดีที่สุด 10 อันดับในอินเดีย

Download Astro
Download Astro
8 มิถุนายน 2022
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ประเทศที่มีประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนที่คนให้ความสนใจเหมือนกับรัสเซียและจีน แต่ประเทศอินเดียนั้นค่อนข้างรุนแรงในเรื่องการสอดส่องบริการอินเทอร์เน็ต มีหน่วยงานของรัฐที่คอยสอดส่องดูแลในหลายช่องทางอย่างเข้มงวด และคอยแบนเนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน หรือเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น และแน่นอนรวมถึงเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติในการบังคับให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของรัฐด้วย นอกจากนี้เนื้อหาอาจจะถูกแบนเพราะเรื่องความเชื่อทางศาสนาและเรื่องการเมืองในฐานะตัวแทนการรักษาความปลอดภัยของประเทศ คุณอาจจะไม่เห็นภาพหากพิจารณาแค่ผ่านๆ แต่อินเดียนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้มงวดการเซนเซอร์เนื้อหาในอินเทอร์เน็ตที่สุดประเทศหนึ่ง
VPN นั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เพื่อใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกแบนโดยรัฐบาลไม่ว่าจะสาเหตุใด ถึงแม้ว่าบางเว็บไซต์นั้นสมควรที่ถูกแบนก็ตาม แต่อีกหลายเว็บไซต์นั้นถูกบล็อกด้วยความผิดพลาดเพราะเนื่องจากเว็บเหล่านั้นนำไปสู่เว็บไซต์ผิดกฎหมายอื่นๆ อีกต่อหนึ่ง นอกจากนี้ประชาชนอินเดียนั้นเจอกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลเพื่อการจัดกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตฟรีของประเทศมานานแล้ว และ VPN เลยเข้ามามีบทบาทตรงนี้!
แล้ว VPN ที่ว่านี้มีแบบให้ใช้งานได้ฟรีไหม คำตอบคือใช่อย่างน้อยก็ฟรีในระยะหนึ่ง VPN บางเจ้านั้นเสนอให้ทดลองใช้ฟรี ขณะที่บางเจ้าคุณต้องจ่ายแต่คุณขอยกเลิกการเป็นสมาชิกและขอเงินคืนได้ภายในสัปดาห์หรือเดือนแรก และบางเจ้านั้นให้ใช้บริการฟรีแบบถาวร แต่มีข้อจำกัดใหญ่ๆ อย่างแบนด์วิดท์และตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ (ปกติแล้วจะไม่มีเซิร์ฟเวอร์ในอินเดียให้เลือก)

หนึ่งใน VPN ที่ได้รับการยอมรับที่สุดในวงการนี้อย่าง NordVPN นั้นเสนอบริการที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ในแบบที่คุณต้องการแม้จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ในอินเดีย บริการเจ้านี้มีเซิร์ฟเวอร์ที่โนอิดะ อินโดร์ และเดลี  ที่ทำให้คุณเข้าสู่เนื้อหาท้องถิ่นของอินเดียได้อย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้ NordVPN ยังเสนอให้ทดลองใช้ฟรี 3 วัน และไม่ต้องแม้แต่ลงทะเบียนเครดิตการ์ด ดังนั้นไม่มีความเสี่ยงใดๆ หากคุณลืมยกเลิกการเป็นสมาชิก
 
ด้วยเซิร์ฟเวอร์ในมุมไป และเจนไน ExpressVPN นั้นเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกหนึ่งที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้าก่อน แต่บริการนี้ก็ใจกว้างเพราะยอมให้คืนเงินภายใน 30 วัน หากไม่พอใจ นั่นหมายความว่าคุณสามารถลองเข้าชมรายการของอินเดียได้อย่างจุใจได้ถึง 1 เดือน ก่อนที่จะจะยกเลิกสมาชิกและขอคืนเงิน
 

ถึงแม้ว่า VyprVPN จะมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในอินเดีย แต่ทั้งหมดนั้นตั้งอยู่ในมุมไบ นั่นหมายถึงการลดความสามารถเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ท้องถิ่นด้วยข้อจำกัดเรื่องตำแหน่ง เพราะคุณไม่สามารถเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ไปใช้เซิร์ฟเวอร์ของรัฐอื่นในอินเดียได้ อย่างไรก็ตาม บริการนี้มีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์จำนวนมาก และมีชื่อเสียงเรื่องการทดลองใช้งานฟรี 3 วัน (แต่จำเป็นต้องใช้เครดิตการ์ดสมัคร การตัดเงินจะเกิดขึ้นเมื่อเลยวันทดลองใช้ ดังนั้นอย่าลืมกดยกเลิกสมาชิก!)
 

เป็นเพชรที่แฝงตัวในผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำ IPVanish นั้นทำให้คุณตื่นตากับเซิร์ฟเวอร์ทั้งในบังคาลอร์ ไฮเดอราบาด อินดอร์ มุมไบ นิวเดลี และปูเน หากคุณติดตามรายการของอินเดียอยู่ นี่อาจจะเป็น VPN ที่เหมาะกับคุณมาก แต่ระวังไว้ว่าการคืนเงินต้องทำภายใน 7 วันเท่านั้น ดังนั้นอย่าลืมยกเลิกสมาชิกและขอเงินคืนในเวลาดังกล่าวด้วย!
ขณะที่ PureVPN เป็นอีกหนึ่งบริการ VPN คุณภาพดีที่มีเซิร์ฟเวอร์ในอินเดีย แต่เช่นเดียวกับ VyprVPN มันไม่ได้ครอบคลุมเรื่องตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ โดยมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ที่เดลีเพียงเซิร์ฟเวอร์เดียว และนั่นอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของคุณ อย่างไรก็ตาม บริการนี้การันตีคืนเงินหากไม่พอใจในระยะเวลายาวนานถึง 31 วัน
ชื่อแนวทะเล้นนี้อาจจะคิดว่า VPN นี้แค่บริการที่เปิดแบบเล่นๆ แต่จริงๆ แล้ว HideMyAss! เป็นหนึ่งใน VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์ครอบคลุมมากที่สุดในโลก รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่มหาราษฏระ และมุมไบ นอกจากนี้บริการเจ้านี้เสนอให้ทดลองใช้ฟรี 7 วัน (จำเป็นต้องสมัครด้วยเครดิตการ์ด ดังนั้นอย่าลืมยกเลิกสมาชิกก่อนที่เวลาทดลองใช้จะหมด)

เป็นเรื่องที่พบไม่บ่อยนักที่ผู้ให้บริการ VPN นั้นไม่มีรายชื่อเซิร์ฟเวอร์ให้ดูว่าอยู่ในเมืองไหนบ้างเหมือน HotspotShield อย่างไรก็ตามบริการของเจ้านี้มีเซิร์ฟเวอร์อย่างน้อย 1 เซิร์ฟเวอร์ในอินเดีย ประเด็นที่สำคัญมากของบริษัทนี้คือยอมให้ผู้ใช้งานคืนเงินในระยะเวลาที่ยาวนานถึง 45 วัน นั่นทำให้คุณยืดหยุ่นในการทดลองใช้งานได้มาก และด้วยการทดลองใช้งานฟรีที่ยาวนานทำให้คุณลองเข้าดูรายการมากมายก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือไม่

พัฒนาโดยบริษัทเดียวกับ ProtonMail ซึ่งทำให้ ProtonVPN นั้นมีระบบเข้ารหัสที่ถือว่าทันสมัยในแวดวง VPN นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ ProtonVPN นั้นแตกต่างจากคู่แข่งคือไม่มีนโยบายการเก็บประวัติการใช้งาน และบริการนั้นไม่จำกัดปริมาณแบนด์วิดท์
แต่เช่นเดียวกับบริการฟรีอื่นๆ ProtonVPN ก็มาพร้อมข้อเสียบางประการ เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์นั้นตั้งอยู่แค่ใน 3 ประเทศ คุณจึงไม่สามารถเข้าสู่เว็บไซต์ที่บล็อคประเทศเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ ProtonVPN ยังไม่มีแอปสำหรับใช้งานกับ iOS ดังนั้นคุณต้องหาบริการอื่นหากคุณใช้งาน iPhone
นอกจากนี้ ProtonVPN ยังมีเวอร์ชันเสียเงินที่ให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์กับ VPN ได้หลายเครื่องพร้อมกันอีกด้วย
หากพูดถึง VPN ฟรี TunnelBear นั้นถือว่าเป็นผู้นำ เนื่องจากเสนอฟีเจอร์ที่พลาดไม่ได้จำนวนมาก โดยTunnelBear ไม่ได้ให้แค่ความเร็วสูง แต่ยังให้ผู้ใช้งานนั้นเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปกป้องซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้บริการยังเสนอการเข้ารหัส AES 256-bit โดยไม่มีนโยบายบันทึกประวัติการใช้งานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บริการนี้จำกัดข้อมูลให้ใช้งานแค่ 500MB ต่อวัน แต่คุณสามารถเพิ่มแบนด์วิดท์ให้เป็น 1GB ต่อวันได้ด้วยการทวีตเกี่ยวกับ TunnelBear
 
สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้งาน WindScribe ชื่นชอบคือนโยบายการจำกัดข้อมูลที่แสนใจกว้าง นอกจากจะใช้งานได้ฟรี 10GB ต่อเดือนแล้ว ผู้ใช้ยังเพิ่มได้อีก 5GB เพียงแค่ทวีตเกี่ยวกับ WindScribe นอกจากนี้บริการยังเพิ่มให้งานได้ฟรีอีก 1GB หากแนะนำเพื่อนให้มาใช้บริการของเจ้านี้
WindScribe นั้นมาพร้อมกับไฟร์วอลและบริการบล็อคโฆษณาที่ติดตั้งมาให้แล้ว และข้อดีสุดท้าย เวอร์ชันฟรีไม่มีนโยบายการบันทึกประวัติการเข้าชม และยอมให้เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 10 เซิร์ฟเวอร์