เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา อุกกาบาตได้พุ่งชนที่ทวีปแอนตาร์กติกาและทำให้เกิดคลื่นยักษ์ของการปะทะ Lara Croft จะค้นหาความลับที่นำไปสู่ความหายนะในครั้งนี้และต้องกระโดดข้ามหุบเหวและเผชิญหน้ากับเหล่ามอนสเตอร์ที่ไม่เคยมีใครพบมาก่อน โดยในครั้งนี้เธอได้พบกับปริศนาจากภายนอกโลก Tomb Raider III เป็นเกมส์แนวผจญภัยที่ได้รวมการแก้ปริศนาเข้ากับแอ็คชั่นได้เป็นอย่างดี Tomb Raider III เป็นแอ็คชั่นเกมส์ที่มีการผจญภัยและมีปริศนาให้แก้มากมาย หน้าที่ของคุณคือการนำพา Lara Croft ให้ผ่านไปยังเลเวลต่าง ๆ ที่มีความเข้มข้น ซึ่งขนาด, ขอบเขต และสภาพแวดล้อมของแต่ละเลเวลถือเป็นจุดแข็งของเกมส์ อย่างไรก็ตามช่องว่าต่าง ๆ ได้เต็มไปด้วยสิ่งที่คุณเคยพบเห็นมาก่อนแล้ว และในการที่จะเอาชนะเกมส์นี้ได้นั้นคุณจะต้องให้ Lara ทำในสิ่งที่เธอเคยทำมาก่อน
นำ Lara Croft ไปผจญภัยในภารกิจ, ความท้าทาย, และความลึกลับใหม่
จุดแข็งของ Tomb Raider ภาคดั้งเดิมคือการที่ Lara Croft ได้เป็นตัวละครที่สามารถวิ่งได้อย่างอิสระในโลก 3D ซึ่งในตอนนั้น สิ่งนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ นอกจากนี้ขนาดของเลเวลต่าง ๆ มีขนาดใหญ่พอที่จะจับจินตนาการของนักเล่นเกมส์ได้ เพียงพอ แต่ถึงแม้ในบนการผจญภัยครั้งแรกของ Lara จุดอ่อนของ engine ที่ใช้สร้างเกมส์ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน มันไม่ค่อยมีอะไรทำหรือดูในโลกของ Lara คอนเซปต์ที่อยู่เบื้องหลัง Lara Croft มีความน่าสนใจมากกว่าการดำเนินการตามพล็อตเรื่อง ในช่วงที่เริ่มตั้งแต่ Tomb Raider ปรากฎตัวเป็นครั้งแรก ความคาดหวังของนักเล่นเกมส์ได้พุ่งขึ้นสูงเป็นอย่างมาก มีนักเล่นเกมส์หลายคนที่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมภายในเกมส์ได้เหมือน ๆ กับฉากในเกมส์ Lara Croft การขาดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ของเกมส์ซีรีย์นี้สามารถมองได้เห็นอย่างเด่นชัดมากยิ่งขึ้นในขณะที่โลกกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า สิ่งสุดท้ายคือ: Tomb Raider III เป็นเกมส์ที่ยาก มันเป็นการยากสำหรับผู้เล่นหลายคนที่จะเล่นจนจบเกมส์ได้โดยไม่ต้องมีคู่มือเกมส์อยู่ในมือ ถ้าหากคุณต้องการสัมผัสกับความท้าทายที่แท้จริง ความยากระดับนี้ทำให้ Tomb Raider III ดูโดดเด่นขึ้นมา; แต่ถ้าหากคุณรู้สึกกังวลใจได้ง่าย คุณอาจต้องมองหาเกมส์ใหม่
