หากคุณศึกษาเกี่ยวกับ VPN อยู่ คุณอาจจะได้ยินเกี่ยวกับเครือข่าย Tor เช่นกัน หากดูโดยผิวเผินแล้ว บริการทั้งสองอย่างอาจเหมือนๆ กัน อย่างไรก็ตามมีข้อแตกต่างสำคัญซึ่งคุณควรตระหนักไว้ ถ้าจะตัดสินเลือกใช้บริการใด คุณจำเป็นต้องพิจารณาถึงความต้องการหรือความจำเป็นของคุณด้วย
แล้วบริการไหนที่ใช่สำหรับคุณ เราสรุปข้อดีและข้อเสียของทั้งคู่เพื่อให้คุณใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
เหตุผลเพื่อการตัดสินใจว่าจะใช้ VPN หรือ Tor
ก่อนที่เราจะมาดูข้อดีและข้อเสียของเทคโนโลยีทั้งสองประเภท คุณอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมถึงต้องใช้งาน VPN หรือ Tor ด้วย
อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นเครื่องมือที่มหัศจรรย์ในการค้นหาข้อมูล และการเชื่อมโยงกับที่อื่นๆ ทั่วโลก แต่มันก็เปิดช่องทางให้แก่รัฐบาล แฮกเกอร์ และบุคคลที่สามอื่นๆ เพื่อสืบหรือขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณด้วย
VPN และ Tor นั้นเป็นวิธีในการปกป้องความเป็นส่วนตัวให้กับกิจกรรมออนไลน์ของคุณ และป้องกันข้อมูลของคุณไม่ให้ถูกขโมยหรือถูกนำไปสร้างความเดือดร้อนให้คุณ หากคุณไม่ชอบเรื่องที่ชื่อ ที่อยู่ ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ และข้อมูลอื่นๆ นั้นพร้อมจะให้ผู้อื่นรับรู้ได้ คุณก็น่าจะต้องการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้สักตัว
VPN คืออะไร
VPN นั้นย่อมากจาก virtual private network (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) หากคุณใช้ VPN ข้อมูลรับส่งทางอินเทอร์เน็ตของคุณจะผ่านเซิร์ฟเวอร์หนึ่งของผู้ให้บริการ VPN ที่คุณใช้ ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ตำแหน่งอื่นในโลก แทนเส้นทางของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ
ด้วยวิธีดังกล่าว ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดของคุณจะถูกเข้ารหัสและทำให้บุคคลที่สามนำไปอ่านไม่ได้ และด้วยการล็อกอินไปยังเซิร์ฟเวอร์ของประเทศอื่น ทำให้ที่อยู่ IP และตำแหน่งของคุณถูกซ่อน วิธีนี้ไม่เพียงเพิ่มมาตรการความเป็นส่วนตัวของคุณ แต่ยังช่วยให้คุณหลบเลี่ยงกฎหมายเซ็นเซอร์และเข้าถึงเนื้อหาที่ดูได้แต่ในประเทศอื่นเท่านั้นด้วย
มีบริการ VPN มากมายหลายเจ้าให้เลือกใช้งาน ปกติแล้วบริการเหล่านี้จะเก็บค่าบริการกับผู้ใช้งานเป็นรายเดือน แต่ก็มีบางเจ้าที่เปิดให้บริการฟรี เมื่อคุณสมัครบริการแล้ว คุณสามารถโหลดแอปหรือโปรแกรมลงในอุปกรณ์ของคุณจากนั้นคุณก็สามารถล็อกอินเพื่อใช้งานเซิร์ฟเวอร์หลากหลายแห่งเพื่อซ่อนตัวตนของคุณได้
เครือข่าย Tor คืออะไร
เครือข่าย Tor สร้างมาจากเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่หลายแห่งทั่วโลก เมื่อคุณใช้งาน Tor ข้อมูลรับส่งทางอินเทอร์เน็ตของคุณจะใช้เส้นทางผ่านเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวในการเข้ารหัสข้อมูลและทำให้ไม่มีใครรู้ว่าข้อมูลนั้นรับส่งมาจากใคร
หากมองเผินๆ แล้ว Tor ก็เหมือน VPN อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งสิ่งสำคัญที่แตกต่างระหว่าง Tor และ VPN คือไม่มีองค์กรที่ควบควบคุม Tor นั่นหมายความว่าไม่มีใครเข้าถึงข้อมูลของคุณได้แน่นอน ขณะที่ VPN สามารถป้องกันบุคคลที่สามไม่ให้ล้วงข้อมูลของคุณได้ ตัวบริษัทที่ให้บริการ VPN เองนั้นเข้าถึงข้อมูลของคุณได้หากเขาต้องการ ดังนั้นการใช้ VPN นั้นคุณจำเป็นต้องเชื่อใจบริษัทที่คุณเลือกใช้บริการด้วย
นอกจากนี้อีกข้อแตกต่างคือ Tor นั้นให้บริการฟรี การใช้เครือข่าย Tor คุณเพียงแค่ดาวน์โหลดบราวเซอร์ของ Tor ด้วยการใช้บราวเซอร์ดังกล่าว ข้อมูลรับส่งทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของคุณจะถูกเข้ารหัสผ่านเครือข่ายของ Tor แทน
เหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ VPN
หลังจากที่อ่านข้อมูลด้านบนแล้ว อาจจะชัดเจนว่าควรจะเลือกใช้เครือข่าย Tor เพราะมันมีระบบรักษาการปลอดภัยที่ดีกว่า และให้บริการฟรีอีกด้วย แต่หากคุณศึกษาให้ลึกขึ้น คุณจะพบว่า VPN นั้นมีข้อได้เปรียบมากกว่า Tor หลายข้อ
นี่คือเหตุผลที่สนับสนุนให้คุณเลือกใช้ VPN
• ความเร็ว เพื่อที่จะซ่อนตัวตนของคุณ Tor นั้นเปลี่ยนเส้นทางของข้อมูลรับส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากที่อยู่ทั่วโลก และด้วยเหตุผลนี้รวมกับการเข้ารหัสข้อมูลทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณช้าลงมากๆ ขณะที่ VPN นั้นถึงแม้จะใช้วิธีใกล้เคียง แต่ข้อมูลรับส่งนั้นผ่านเพียงแค่เซิร์ฟเวอร์เดียว ซึ่งส่งผลให้ VPN ทำให้อินเทอร์เน็ตของคุณช้าลงแค่นิดเดียว และคุณอาจจะไม่สังเกตถึงความแตกต่างด้วยซ้ำ
• การบำรุงรักษาและเสถียรภาพที่ดีกว่า ถึงแม้ว่าการต้องเสียค่าบริการนั้นอาจจะเป็นข้อเสีย แต่มันก็มีข้อดีในเรื่องนี้ ค่าสมาชิกนั้นจะเป็นทุนในการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ และฮาร์ดแวร์อื่นๆ เพื่อให้มันทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แน่นอนว่าคุณจะได้ประโยชน์จากเงินที่คุณจ่าย ปกติแล้ว VPN ทำงานได้ดีกว่า และมีความเสถียรมากกว่า Tor ที่มีเพียงกลุ่มอาสาสมัครคอยดูแล
• ใช้งานได้กับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ ผู้ให้บริการ VPN ส่วนมากนั้นเสนอซอฟต์แวร์หลากหลายที่ใช้ได้กับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ทุกประเภท ซึ่งทำให้ VPN ใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน เครื่องเกม และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าอุปกรณ์นั้นจะใช้ระบบปฏิบัติการอะไรก็ตาม ก็มีโอกาสที่ VPN ที่มีคุณภาพที่ใช้งานกับมันได้ ถึงแม้ว่า Tor เองก็ใช้งานได้กับอุปกรณ์แทบทุกประเภทเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถใช้งานกับ iOS ได้
• ทุกข้อความนั้นถูกเข้ารหัส เมื่อคุณใช้ VPN คุณมั่นใจได้ว่าทุกข้อความในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ของคุณและเซิร์ฟเวอร์ของ VPN นั้นจะถูกเข้ารหัส นั่นหมายความว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และบุคคลที่สามจะนำข้อมูลนั้นไปใช้ไม่ได้
เหตุผลที่คุณควรเลือกใช้เครือข่าย TOR
ขณะที่ปกติแล้ว VPN นั้นเป็นทางเลือกของวิธีเข้ารหัสที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เลือกใช้ เครือข่าย Tor นั้นก็มีข้อดีที่เหนือกว่าบางประการ
นี่คือเหตุผลที่สนับสนุนให้คุณเลือกใช้ Tor
• ไม่มีทางระบุตัวตนของคุณได้ ดังที่กล่าวไว้ในตอนต้น ขณะที่ VPN นั้นป้องกันไม่ให้บุคคลที่สามดักเอาข้อมูลของคุณไป แต่ผู้ให้บริการ VPN นั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณ นั่นหมายความว่ายังมีคนที่รู้ตัวตนของคุณอยู่บ้าง แต่กับเครือข่าย Tor ที่ไม่มีการเก็บข้อมูลใดๆ ไว้เลยจึงรักษาความปลอดภัยได้ดีกว่า VPN
• บริการไม่ทางถูกปิด หากรัฐบาลนั้นต้องการปิดบริษัท VPN พวกเขาสามารถทำได้ง่ายๆ เพราะอย่างที่เห็นคือ VPN นั้นมีสำนักงานใหญ่ซึ่งหาเจอได้ง่าย แต่เครือข่าย Tor นั้นดำเนินการโดยอาสาสมัครรอบโลก หากคุณอยากจะปิดเครือข่าย Tor พวกเขาต้องหาอาสาสมัครทุกๆ คนให้เจอ ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะทำได้เลย
• ใช้ฟรี ดังที่เรากล่าวไว้ว่าการเสียค่าสมาชิก VPN นั้นก็ให้ผลตอบแทนกับคุณด้วย อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินจ่ายค่าบริการ VPN และถึงแม้ว่าจะมี VPN ที่ให้บริการฟรี ส่วนใหญ่แล้วบริการเหล่านั้นมักจะมีปัญหาเรื่องการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงาน ขณะที่เครือข่าย Tor นั้นฟรีและปลอดภัย หากคุณต้องการหาทางเลือกที่ฟรี เครือข่ายของ Tor นั้นถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
แล้วควรจะใช้ VPN หรือ Tor ดี
สำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ VPN นั้นเป็นทางออกในการช่วยคุณเรื่องความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์ที่ใช้งานได้ดี VPN นั้นไม่กระทบต่อความเร็วและประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย และยังมีข้อดีหลายข้อเหนือเครือข่าย Tor
อย่างไรก็ตามหากคุณส่งข้อมูลที่สำคัญและต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ คุณอาจจะพิจารณาใช้เครือข่าย Tor แทน นอกจากนี้หากคุณต้องการบริการเข้ารหัสที่ฟรี และไม่สนใจเรื่องความเร็ว Tor นั้นเป็นทางเลือกที่ดี
สุดท้ายแล้วการตัดสินใจขึ้นอยู่กับคุณเอง พิจารณาความต้องการของคุณและเลือกใช้บริการที่คุณคิดว่าเหมาะกับการใช้งานของคุณ