คุณจะเห็นได้ว่าการพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยทางออนไลน์เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในเครือข่ายเว็บ เรื่องนี้ได้กลายมาเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญ เนื่องด้วยข่าวสารต่าง ๆ ที่นำเสนอเกี่ยวกับวิธีการที่ข้อมูลของเราถูกนำมาใช้และถูกนำมาดำเนินการทางออนไลน์ในทางที่ผิด และในเนื้อความการพูดคุยเรื่องความเป็นส่วนตัวนั้น คุณก็มักจะได้ยินคนอื่น ๆ พูดถึง VPN หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเครือข่ายส่วนตัวเสมือน
เราเลือกที่จะเขียนคำแนะนำที่อ่านเข้าใจง่ายสำหรับผู้มีความรู้ทางด้านเทคนิคน้อย เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่า VPN คืออะไร บทความนี้จะพูดอย่างตรงประเด็นเจาะไปถึงสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ ซึ่งคุณจะได้รู้จัก VPN รู้ถึงเหตุผลที่ต้องใช้ VPN และรู้วิธีที่คุณจะสามารถนำมันมาใช้งานได้ อาจจะฟังดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้าง “เทคนิคเกินไป” และซับซ้อน แต่ความจริงแล้วไม่เลย หลังจากที่คุณอ่านคำแนะนำของเราเสร็จ คุณก็จะได้รู้ทุกเรื่องที่มีความจำเป็นสำหรับคุณ
มาเริ่มที่ชื่อของมันกันก่อน ชื่อของมันแสดงให้เห็นว่า VPN เป็นเครือข่ายส่วนตัวซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าถึงได้ เว้นแต่บุคคลที่มีสิทธิ์เท่านั้น ในขณะเดียวกัน เราก็จะเข้าถึงเสมือนไปยังเครือข่ายนี้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ต่าง ๆ
อธิบายเรื่อง VPN
กล่าวอย่างง่าย ๆ VPN คือเครือข่ายส่วนตัวที่ประกอบด้วยกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้ใช้เชื่อมต่อผ่านทางผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของพวกเขา เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อกับ VPN ในเซสชั่นหนึ่งแล้ว ผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อใหม่อีกครั้งจนกว่าจะเริ่มเซสชั่นใหม่ เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ VPN ระบบจะเริ่มกระบวนการที่เรียกว่า “การสร้างอุโมงค์เสมือน” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เซิร์ฟเวอร์ของ VPN ทำหน้าที่เป็นเหมือนบ้านของคุณในโลกเสมือน
ง่าย ๆ ก็คือว่า คุณสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ตให้แก่ตัวเอง โดยที่คุณก็ยังคงสามารถกระทำกิจกรรมทางออนไลน์ต่าง ๆ อย่างที่คุณทำอยู่เป็นประจำได้ เมื่อคุณท่องเว็บผ่านทางตำแหน่งที่ปลอดภัยนี้ ข้อมูลทุกอย่างที่คุณส่งออกหรือรับเข้าจะปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ซึ่งให้ความมั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวในระดับที่ดีเยี่ยม
เมื่อคุณกำลังสร้างอุโมงค์เสมือน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ และแม้แต่หน่วยงานอื่น ๆ ที่แข็งแกร่งกว่าก็จะไม่สามารถพบข้อมูลที่คุณกำลังใช้ รับ หรือส่งอยู่ได้เลย ด้วยเหตุนี้เอง คุณจึงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไม่ระบุตัวตน โดยไม่มีใครคอยติดตามการกระทำ และคอยดูว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่
ทำไมคุณควรต้องใช้ VPN
ความปลอดภัย
จุดประสงค์หลักของ VPN คือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยให้ผู้ใช้เมื่อออกไปท่องโลกออนไลน์ เนื่องด้วยข้อมูลทุกอย่างของคุณนั้นได้รับการเข้ารหัส จึงทำให้การที่อาชญากรแห่งโลกไซเบอร์จะสามารถดักจับข้อมูลและนำไปใช้ในทางที่ผิดนั้นเป็นไปได้อย่างยากเย็นยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเข้าไปในระบบบัญชีธนาคารของคุณ และคุณก็ทำการกรอกรหัสลับลงไป อาจเป็นไปได้ว่าแฮกเกอร์จะสามารถดักจับสิ่งที่คุณพิมพ์ลงไป แล้วจึงขโมยบัญชีธนาคารของคุณไปได้
จากสถานการณ์ในรูปแบบดังกล่าว ทำให้การใช้ VPN นั้นเป็นเรื่องที่ดีเป็นพิเศษเมื่อต้องเชื่อมต่อกับ เครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย และเครือข่ายสาธารณะ เช่น WI-FI ของสนามบิน เครือข่ายเหล่านี้มักจะไม่ได้รับการปกป้องใด ๆ ซึ่งหมายความว่า มันเป็นเหมือนการออกไปเป็นเป้าให้แฮกเกอร์ดักจับข้อมูลของคุณ
ความเป็นส่วนตัว
เหตุผลสำคัญรองลงมาที่ทำให้การใช้ VPN เป็นความคิดที่ดีคือ มันช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณในโลกออนไลน์ เนื่องจาก สิ่งที่คุณดู ดาวน์โหลด อ่าน หรือเขียนทางออนไลน์นั้นไม่ใช่ธุระกงการของใครอื่น และไม่ควรมีใครมาคอยติดตามการเคลื่อนไหวของคุณ แต่กระนั้นก็ดี แม้ว่าการจราจรข้อมูลที่วิ่งมาจากคอมพิวเตอร์ของคุณจะได้รับการเข้ารหัสด้วย VPN แล้วก็ตาม มันก็ยังคงสามารถถูกติดตามได้ด้วยโปรแกรมติดตามเว็บ เช่น คุกกี้ ได้อยู่ดี
สรุปง่าย ๆ คือ VPN นั้นช่วยปกป้องการจราจรในเครือข่าย และช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นสามารถมองเห็นการสื่อสารของคุณได้ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่สามารถป้องกันแอปพลิเคชันของเว็บไซต์ เช่น คุกกี้ เข้ามาสื่อสารกับคุณได้
การเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง
ข้อนี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจใช้ VPN คุณสามารถใช้มันเปลี่ยนตำแหน่งเสมือนของคุณได้ กล่าวคือ คุณสามารถใช้ VPN เปลี่ยนที่อยู่ IP และผู้คนออนไลน์จะไม่สามารถหาตำแหน่งจริงของคุณเจอจากที่อยู่ IP นั้น ๆ ได้
หากคุณต้องการเล่นสล็อตออนไลน์ แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในประเทศของคุณ คุณสามารถใช้ VPN เปลี่ยนตำแหน่งให้ดูเหมือนว่าคุณมาจากประเทศอื่นที่สามารถเล่นได้อย่างอิสระและถูกกฎหมาย
อีกทั้งคุณยังสามารถดูภาพยนตร์ที่ถูกแบนในประเทศของคุณได้ หรือใช้บริการต่าง ๆ ที่มีให้ในประเทศอื่น และคุณก็ยังสามารถใช้ VPN ให้แสดงตำแหน่งว่าคุณเชื่อมต่อจากประเทศของคุณเอง ในกรณีที่คุณกำลังเดินทางไปประเทศอื่น และต้องใช้บริการที่มีจำกัดไว้แค่ในประเทศของคุณเองเท่านั้น
VPN ทำให้อินเทอร์เน็ตช้าลงไหม
VPN ทำให้อินเทอร์เน็ตช้าลงเล็กน้อย เหตุผลที่ VPN ทำให้อินเทอร์เน็ตช้าลงก็เพราะว่า ข้อมูลจะต้องเดินทางผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น อีกอย่างก็คือ เวลาเข้ารหัสข้อมูลจะต้องใช้เวลาและพลังงานในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้บริการ VPN ที่ดี และมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เสถียร ก็จะมีผลกระทบต่อความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะไม่ทำให้คุณเสียอารมณ์ในการทำกิจกรรมออนไลน์
สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงก็คือ ผู้ให้บริการ VPN ไม่ควรมีเซิร์ฟเวอร์ที่ช้าและถ้าหากมี คุณจะสังเกตเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และอีกเรื่องที่ต้องดูให้มั่นใจคือ มีเซิร์ฟเวอร์ของ VPN ตั้งอยู่ใกล้ตำแหน่งของคุณหรือไม่ หากไม่มีก็หมายความว่า ข้อมูลของคุณจะต้องเดินทางไปไกลมากขึ้น และจะทำให้การเชื่อมต่อดำเนินไปอย่างช้าลงตามไปด้วย
สามารถใช้ VPN กับอุปกรณ์หลายชนิดได้ไหม
ปรกติแล้วจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ VPN อย่างไรก็ตาม มีผู้ให้บริการมืออาชีพหลายเจ้าที่ทำบัญชีผู้ใช้ที่สามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์หลายชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป แท็บเล็ต และโทรศัพท์สมาร์ทโฟน การเชื่อมต่อทั้งหมดสามารถทำงานได้กับอุปกรณ์ทุกชนิดโดยใช้หลักการเดียวกัน พร้อมให้ประโยชน์ใช้สอยตามที่คุณคาดไว้
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการ VPN ที่มีคุณภาพอย่าง ExpressVPN ยังจะให้การเชื่อมต่อ VPN แบบหลายทางซึ่งคุณสามารถใช้งานอุปกรณ์หลายชิ้นได้ในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้คนหนึ่งเชื่อมต่อ VPN กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ขณะที่อีกคนก็สามารถใช้บัญชีเดียวกันเชื่อมต่อกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเขา โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ให้บริการ VPN จะเปิดให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 3 ถึง 5 ชิ้น
มี VPN ที่ให้บริการฟรีไหม
ใช่แล้ว VPN มีตัวเลือกบริการฟรีให้เราใช้ อย่างไรก็ตาม ขอให้เราคิดไว้เสมอว่า VPN ที่สมบูรณ์นั้นต้องใช้บริษัทต่าง ๆ ในการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ ระบบพื้นฐาน และการคอยให้การบำรุงรักษาที่เหมาะสม ดังนั้น การดำเนินบริการ VPN ที่สมบูรณ์จึงเป็นงานที่จริงจัง ซึ่งต้องมีการเกี่ยวข้องกับผู้คน และไม่มีใครสามารถทำงานฟรีได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้ให้บริการ VPN ฟรีที่ดีอย่าง TunnelBear มักจะให้บริการที่มีข้อจำกัดอย่างมากแก่คุณ ซึ่งมันเพียงให้คุณได้สามารถสัมผัสกับพลังที่แท้จริงของ VPN เท่านั้น
จุดประสงค์ของพวกเขาคือ เพื่อให้คุณซื้อบริการพรีเมียมเมื่อคุณได้รู้แล้วว่า VPN นั้นให้ประโยชน์คุณได้มากขนาดไหน และตระหนักว่ามันก็คุ้มค่าราคาสมาชิกจริง พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาให้คุณทดลองใช้บริการฟรี ซึ่งเป็นเรื่องยุติธรรมมากในส่วนของทางผู้ให้บริการ
อย่างไรก็ตาม คุณควรตระหนักว่า ผู้ให้บริการ VPN ที่แจ้งว่าไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใด ๆ นั้นอาจจะเป็นผู้ที่คอยติดตามข้อมูลของคุณเพื่อนำไปขายเพื่อการโฆษณา หรือเพื่อใช้ประโยชน์ด้านอื่น กล่าวคือ พวกเขากำลังหลอกใช้คุณในการขโมยแบนด์วิธโดยการเชื่อมต่อของคุณ
รวมบทสรุป
VPN เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ซึ่งสร้างสิ่งที่ดีให้แก่โลกออนไลน์ และแน่นอนว่าต้องมีคนนำมันไปใช้ผิดตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งที่จริงแล้วอินเทอร์เน็ตมีจุดประสงค์ในการนำมาใช้ในเรื่องที่ดี หากแต่มีบางคนกลับเอามันมาใช้ในทางที่ผิด ทั้งนี้คุณสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยทางออนไลน์ของคุณได้ด้วยการใช้ VPN ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากในปัจจุบัน
VPN เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ซึ่งสร้างสิ่งที่ดีให้แก่โลกออนไลน์ และแน่นอนว่าต้องมีคนนำมันไปใช้ผิดตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งที่จริงแล้วอินเทอร์เน็ตมีจุดประสงค์ในการนำมาใช้ในเรื่องที่ดี หากแต่มีบางคนกลับเอามันมาใช้ในทางที่ผิด ทั้งนี้คุณสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยทางออนไลน์ของคุณได้ด้วยการใช้ VPN ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากในปัจจุบัน