ฟังก์ชัน Kill Switch คืออะไร และ VPN ใดบ้างที่มีฟังก์ชัน Kill Switch

Download Astro
Download Astro
24 พฤษภาคม 2022

 
 
 
 
 
 
 

 

อย่างที่เห็นในปัจจุบัน มีบริการ VPN มากมายหลายแบบออกมาให้เลือกใช้ แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่มีบริการของแบรนด์ไหนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบเลย แม้แต่สัญญาณเชื่อมต่อ VPN ที่มีความเสถียรและน่าเชื่อถือมากที่สุดก็ยังสะดุดได้เป็นครั้งคราว ใคร ๆ ก็รู้ว่าเมื่อคุณขาดการเชื่อมต่อกับ VPN คุณจะต้องเผชิญกับภัยทางออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ กล่าวคือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณสามารถบันทึกกิจกรรมการท่องอินเทอร์เน็ตของคุณได้ และนักโจรกรรมข้อมูลทางออนไลน์ก็สามารถพยายามขโมยข้อมูลของคุณได้ด้วย ดังนั้น คุณสมบัติข้อหนึ่งที่ทำให้บริการ VPN มีดีกว่าบริการเจ้าอื่น ๆ คือการมีฟังก์ชัน kill switch ซึ่งคุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับฟังก์ชันนี้มาหลายครั้ง แต่ถ้าหากคุณยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ เราขอแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้
 
 
ฟังก์ชัน Kill Switch คืออะไร
 
ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่คุณเข้าไปในเว็บไซต์ การเชื่อมต่อกับ VPN ของคุณได้หยุดชะงักลง จะมีการเปลี่ยนที่อยู่ IP ของคุณไปเป็นที่อยู่ IP สาธารณะที่ได้มาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และต่อจากนั้นกิจกรรมที่คุณทำในอินเทอร์เน็ตทุกกิจกรรมจะถูกเปิดเผยและถูกติดตามได้ง่าย และที่แย่ไปกว่านั้นคือ คุณอาจจะไม่รู้เลยว่าการเชื่อมต่อ VPN นั้นได้หยุดลงแล้ว และคุณก็ยังคงดำเนินเข้าใช้อินเทอร์เน็ตโดยปราศจากการรักษาความปลอดภัยต่อไป และตรงนี้เองที่ฟังก์ชัน VPN kill switch จะเข้ามาช่วยเหลือและรักษาให้คุณได้รับการปกป้องต่อไป แล้วฟังก์ชัน kill switch ทำงานอย่างไรน่ะเหรอ โดยหลักแล้ว มันจะตัดการเชื่อมต่อของคุณกับอินเทอร์เน็ตเกือบจะทันทีเมื่อการเชื่อมต่อ VPN ล้มเหลว
 
 
ฟังก์ชัน Kill Switch ทำงานอย่างไร
 
ฟังก์ชัน Kill switch จะเฝ้าสังเกตการณ์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณและคอยดูที่อยู่ IP อย่างระมัดระวัง ฟังก์ชันนี้จะปิดกั้นคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และยกเลิกการเชื่อมต่อโดยเร็วที่สุดเมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของที่อยู่ IP ของคุณ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จนกว่าจะมีการเชื่อมต่อกับ VPN ของคุณอีกครั้ง หรือเมื่อคุณออกจากซอฟต์แวร์ VPN
 
 
ฟังก์ชัน Kill Switch ของ VPN เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติหรือไม่
 
ไม่มีคำตอบตายตัวสำหรับคำถามนี้ ตามหลักการแล้ว ฟังก์ชัน kill switch VPN จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อมันสามารถเปิดใช้งานเองโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการ VPN หลายเจ้าไม่ได้อำนวยความสะดวกในส่วนนี้ และในกรณีนี้คุณจะต้องเปิดใช้งานคุณลักษณะนี้ด้วยตัวเอง โดยไปที่เมนูตั้งค่าในแอปพลิเคชัน และในตอนนี้ คุณคงจะเข้าใจการทำงานของฟังก์ชัน kill switch อย่างกระจ่างแล้ว ทั้งหมดนี้พาให้เรามาถึงคำถามสำคัญที่สุดคือ ถ้าฟังก์ชัน kill switch สำคัญขนาดนี้แล้ว VPN เจ้าไหนบ้างล่ะที่มีฟังก์ชันนี้อยู่ เอาล่ะ มาดูกัน!
 
 
บริการ VPN เจ้าไหนที่มีฟังก์ชัน Kill Switch
 
 
ด้านล่างนี้เป็นรายชื่อ VPN ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน kill switch และเป็นบริการที่จะปกป้องคุณไปตลอดการใช้งาน:
 
 

Express VPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดที่มีในปัจจุบันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย บริการ VPN เจ้านี้ให้คำมั่นว่าจะรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณ และมาพร้อมกับคุณลักษณะใหม่ล่าสุดประกอบด้วย ฟังก์ชัน kill switch ระบบการสร้างอุโมงค์เสมือน (split tunneling) การเข้ารหัสแบบ 256 บิต AES การป้องกันการสูญหายของข้อมูลและอื่น ๆ บริการนี้ให้คุณเลือกเซิร์ฟเวอร์ได้ถึง 148 เซิร์ฟเวอร์ซึ่งตั้งอยู่ใน 94 ประเทศ พร้อมปกป้องคุณจากสายตาที่คอยสอดส่องระหว่างการใช้งาน

 
 

Nord VPN เป็นบริการ VPN ที่ดีเลิศอีกเจ้าหนึ่งที่มาพร้อมฟังก์ชัน kill switch แบบอัตโนมัติและคอยปกป้องคุณระหว่างการท่องอินเทอร์เน็ตแม้แต่ตอนที่ขาดการเชื่อมต่อ VPN   Nord VPN สร้างการใช้งานฟังก์ชัน kill switch ออกเป็นสามรุ่นด้วยกัน มีรุ่น Kill Switch ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ PC สำหรับ Mac และ Windows รุ่นที่ใช้งานกับโทรศัพท์เคลื่อนที่สร้างขึ้นมาเพื่อ iOS และ รุ่น IKEv2 สำหรับใช้กับแอปของ Mac  รุ่นที่สามมีชื่อว่า ‘Always-on VPN’ ซึ่งทำขึ้นสำหรับอุปกรณ์ Android 7.0 หรือใหม่กว่า

 
 

การมาพร้อมกับฟังก์ชัน kill switch แบบอัตโนมัติทำให้ VPN อย่าง CyberGhost มั่นใจได้ว่าตัวตนทางออนไลน์ของคุณจะไม่ถูกเปิดเผยแม้แต่ตอนที่ขาดการเชื่อมต่อกับ VPN ไม่ว่าด้วยหตุผลใดก็ตาม นอกจากบริการนี้จะให้ฟังก์ชัน kill switch ซึ่งเปิดการใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อไหร่ก็ตามที่ตรวจเจอการเปลี่ยนแปลงของที่อยู่ IP แล้ว มันยังมาพร้อมคุณลักษณะเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นในการรักษาความเป็นส่วนตัวและความรัดกุมให้แก่คุณ  คุณลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นรวมไปถึง ระบบ DNS การป้องกันการสูญหายของข้อมูล การเข้ารหัสแบบ 256 บิต AES และการใช้งานโปรโตคอลล่าสุดเช่น OpenVPN PPTP และ L2TP-IPsec

 
 

Windscribe ได้รุดหน้าไปอีกขึ้น และแทนที่บริการนี้จะให้ฟังก์ชัน kill switch พวกเขากลับให้การใช้งานระบบความปลอดภัยไฟร์วอล (Firewall) ซึ่งมีระบบอยู่ในตัวแอปพลิเคชันของ Mac และ Windows ระบบไฟร์วอลจะปิดกั้นการเชื่อมต่อภายนอกอุโมงค์ความปลอดภัย.  การมีฟังก์ชัน kill switch เป็นเพียงแค่มาตรการตอบสนองเมื่อขาดการเชื่อมต่อ แต่สำหรับระบบไฟร์วอลแล้วจะเป็นการปิดกั้นการเชื่อมต่อทั้งหมดที่อยู่นอกอุโมงค์ความปลอดภัย ดังนั้น ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับ VPN อยู่หรือไม่คุณก็จะปลอดภัยจากการจราจรภายนอกเนื่องจากอุโมงค์ความปลอดภัยได้รับการปิดกั้น

 
 

ทั้ง ๆ ที่เป็นบริการฟรี TunnelBear ก็ไม่เคยทำให้คุณผิดหวังเลย มากไปกว่านั้น บริการของเจ้านี้ยังมีฟังก์ชัน kill switch ซึ่งเป็นอะไรที่เกินคุ้มสำหรับบริการฟรี.  ฟังก์ชัน kill switch ใน TunnelBear เรียกว่า Vigilant โดยฟังก์ชันนี้จะปิดกั้นการจราจรต่าง ๆ ที่ไม่ปลอดภัยเมื่อไหร่ก็ตามที่ขาดการเชื่อมต่อกับ VPN และจะปลดล็อกการจราจรใหม่อีกครั้งเมื่อ VPN เชื่อมต่อกลับเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์แล้ว อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันนี้ไม่ได้เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ คุณจำต้องเข้าไปเปิดใช้งานมันเองโดยไปที่หัวข้อ ทั่วไป ที่อยู่ภายใต้เมนูการตั้งค่า เมื่อคุณเข้าไปแล้วให้ทำเครื่องหมายลงตรงกล่องสี่เหลี่ยมที่อยู่ข้าง Vigilant จากนั้นจึงเสร็จสิ้นการตั้งค่า

 
 
ถึงเวลาของคุณแล้ว
หากหนึ่งในจุดประสงค์ที่คุณใช้ VPN คือการท่องอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย เราแนะนำให้เลือกบริการที่มีฟังก์ชัน kill switch อยู่ด้วย การมี kill switch จะเป็นสิ่งรับรองว่ากิจกรรมใด ๆ ที่คุณทำในโลกอินเทอร์เน็ตจะไม่เป็นที่เปิดเผยถึงแม้จะขาดการติดต่อกับ VPN ก็ตาม. เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณเลือก VPN พร้อมฟังก์ชัน kill switch ที่เหมาะสำหรับคุณได้ คุณชอบบริการของแบรนด์ไหนมากที่สุด สามารถเขียนความคิดเห็นของคุณมาหาเราตรงด้านล่างได้เลย!