หากพูดถึงนวัตกรรมโดยมนุษยชาติ อินเทอร์เน็ตนั้นน่าจะอยู่ในอันดับต้นของรายการ เมื่อไม่นานมานี้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้นทำให้เกิดอะไรขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำให้โลกเล็กลงผ่านเซิร์ชเอ็นจิน โซเชียลมีเดย อินเทอร์เน็ตแบงค์กิง และอื่นๆ อีกมาก การเปรียบเรียกอินเทอร์เน็ตว่าเป็น “อุปกรณ์ยิ่งใหญ่ที่ปรับให้ทุกสิ่งเท่าเทียม” นั้นไม่ไกลจากเรื่องจริงเท่าใดนัก
นอกจากประโยชน์ดังที่กล่าวมาแล้ว อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเลยกลายเป็นสิ่งที่จำเป็น ปัจจุบันการเลือกใช้บริการและเชื่อมโยงกับระบบอินเทอร์เน็ตก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ช่องทางในการเชื่อมต่อนั้นเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง
นี่คือสิ่งที่บล็อกนี้กำลังจะพูดถึง
เรานั้นคาดว่า (และเราหวังว่าเราเดาถูก) ที่คุณอ่านบล็อกนี้เพราะคุณอยากจะตัดสินใจให้ได้เสียที เกี่ยวกับปัญหาที่ว่าควรจะใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างการเชื่อมต่อผ่านทางพร็อกซีหรือใช้ VPN
ปัจจุบันนี้ ท่ามกลางปัญหาเกี่ยวกับดิจิตอลอื่นๆ สื่อนั้นกำลังกระพือเกี่ยวกับการรั่วไหล และการขโมยข้อมูล ความคิดเห็นทางการเมืองนั้นถูกแทรกแทรงและนโยบายความเป็นส่วนตัวก็แย่ลง และด้วยข่าวที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจว่าคุณกำลังอ่านบล็อกเพื่อการพยายามตัดสินใจในการใช้ VPN หรือพร็อกซีเพื่อช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ
ถ้าแบบนั้นให้เราไขความลึกลับเกี่ยวเครื่องมือทั้งสองเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจพวกมันมากขึ้น ว่าพวกมันทำงานอย่างไร รวมถึงมาดูข้อดีและข้อเสียของพวกมัน
พร็อกซี
พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์นั้นคือเครื่องมือที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นสื่อกลางในการสัญจรของข้อมูลเมื่อคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต วิธีที่ใช้งานบ่อยๆ ในการลอดผ่านการคัดกรอง โดยการใช้พร็อกซีนั้นหมายถึงการที่คุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ตัวอื่นที่อยู่ไกล (หรือที่เรียกว่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์) ซึ่งจะคอยป้องกันไม่ให้มีการตรวจพบ IP ของคุณ และทำให้ดูว่าเหมือนคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากตำแหน่งอื่น ไม่ใช่ตำแหน่งที่คุณอยู่จริงๆ
คุณกำลังอยากเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกกั้นไม่ให้เข้าถึงจากบางพื้นที่อยู่ไหม การใช้พร็อกซีนั้นช่วยคุณได้!
ในขณะที่พร็อกซีบางเจ้านั้นมาพร้อมซอฟต์แวร์ของตนเอง การติดตั้งพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์นั้นมักจะขึ้นกับอินเทอร์เน็ตบราวเซอร์ และด้วยเหตุผลนี้แค่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของบางแอพลิเคชันเท่านั้นทีจะผ่านพร็อกซี ไม่ใช่ทั้งการเชื่อมต่อทั้งหมดไม่ว่าคุณจะใช้บราวเซอร์อะไรในการเชื่อมต่อพร็อกซี ในด้านราคานั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์นั้นถูกกว่าการใช้ VPN
แต่มันก็มีข้อเสียพ่วงมาด้วย
ขณะที่พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์นั้นเหมาะมากกับผู้ใช้งานที่ต้องการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกห้าม แต่มันต้องตั้งค่าใหม่ซ้ำ ทุกครั้งเพื่อที่จะต่ออินเทอร์เน็ตของคุณเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ขั้นตอนเหล่านี้ยุ่งยาก
พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์นั้นกันไม่ให้คนอื่นรู้ที่อยู่ IP ของคุณ และลดโฆษณาที่มาคอยรบกวนคุณ แต่ข้อมูลของคุณยังคงตกอยู่ในความเสี่ยงกับเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นบุคคลนิรนาม และอาจจะเก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณไปใช้ได้ พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่ไปกลับระหว่างคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ นั่นหมายความว่าไม่มีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับข้อมูลจากคนที่สามารถเชื่อมโยงเส้นทางการใช้งานเดียวกับคุณได้
โปรโตคอลของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่นิยมกันได้แก่ HTTP และ SOCKS
VPN
เช่นเดียวกับการใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ VPN ช่วยให้คุณเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตจากตำแหน่งที่ไกล แต่รูปแบบการทำงานของ VPN นั้นแตกต่างจากการใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์โดยสิ้นเชิง
Virtual Private Network (VPN; เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) นั้นจะโคลน private local area network (ระบบเครือข่ายระดับท้องถิ่นส่วนตัว) ซึ่งจะขยายข้ามไปยังเครือข่ายสาธารณะหรือก็คืออินเทอร์เน็ตนั่นเอง VPN ที่อยู่ในรูปของซอฟต์แวร์นั้น จะเชื่อมต่อคุณเข้ากับเซิร์ฟเวอร์ VPN บนอินเทอร์เน็ต ที่จะถ่ายโอนข้อมูลของคุณทั้งหมดโดยไม่ระบุตัวตนว่าเป็นใครไปยังที่หมายที่คุณต้องการในตอนนั้น
โดยขณะกระบวนการดังกล่าว ข้อมูลของคุณนั้นจะถูกเข้ารหัส ซึ่งต่างจากการใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลที่ไปกลับระหว่างคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์จะถูกเข้ารหัสด้วย และนั่นทำให้ข้อมูลการเข้าเว็บไซต์นั้นเหมือนมาจากเครือข่ายส่วนตัวเสมือนแทนที่จะมาจากตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ
และเราไม่ได้พูดถึงแค่ข้อมูลที่ใช้งานบนบราวเซอร์เท่านั้น VPN นั้นจะตั้งค่าในถึงขั้นระบบการปฏิบัติการซึ่งแตกต่างจากพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ นั่นหมายความว่าข้อมูลเข้าออกที่ถูกแชร์ระหว่างอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ (รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่กำลังเปิดบนอุปกรณ์นั้นทั้งหมด) และการใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นจะถูกเข้ารหัสทั้งหมด
ด้วยฟีเจอร์ดังกล่าว VPN นั้นฟังแล้วจะเป็นทางเลือกที่ใช้การได้ดีกว่าหากเทียบกับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ แต่ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องรู้อีก
ถ้าคุณใช้งาน torrent คุณจะพบว่า VPN นั้นเป็นบริการที่เหมาะกับคุณมาก ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมักจะวิเคราะห์ข้อมูลและทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตต่ำลงถ้าหากเขาพบว่าคุณกำลังใช้บริการ torrent เพื่อป้องกันเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เนื่องจาก VPN นั้นคอยเข้ารหัสข้อมูลของคุณ เลยทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตนั้นวิเคราะห์ข้อมูลของคุณไม่ได้
อย่างไรก็ตามขณะที่พร็อกซีนั้นใช้งานฟรี VPN ส่วนใหญ่ต้องเสียเงิน หากคุณต้องการเข้ารหัสการการเชื่อมต่อทั้งหมดคุณต้องมีสองสิ่งได้แก่เงินเพื่อจ่ายค่าบริการและคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพดี อย่างไรก็ตาม ยังมี VPN ที่ให้บริการฟรีอย่าง Tunnelbear ส่วน VPN ที่ให้บริการดีเยี่ยมอย่าง ExpressVPN และ NordVPN นั้นต้องเสียค่าสมาชิก
นอกจากการจะจ่ายค่าบริการแล้ว การใช้ VPN นั้นต้องมีฮาร์ดแวร์ที่ดีควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการใช้ VPN นั้นข้อมูลจากซอฟต์แวร์ทั้งหมดจะถูกเข้ารหัส ดังนั้นคุณอาจจะต้องเลือก VPN ที่ไม่เกินกว่าความต้องการพื้นฐานของระบบจะรับไหว นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตจะช้าลง เนื่องจากข้อมูลของคุณนั้นต้องผ่านการเข้ารหัสก่อน
พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์นั้นงานได้ดีเยี่ยม แต่ก็ยังมีจุดบุกพร่อง การใช้ VPN นั้นช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับการใช้งานอินเทอร์เน็ตก็ยังมีสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกมาก คุณอาจจะต้องค้นหาในอินเทอร์เน็ตว่าบริการไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด
อย่างไรก็ตามไหนๆ เราก็เขียนบล็อกเกี่ยวกับ VPN แล้ว มีหรือที่เราจะไม่แนะนำ VPN สักเจ้าให้คุณเลย หากคุณอยากจะเลือกใช้ VPN ที่มีประสิทธิภาพ คุณอาจจะเริ่มต้นกับ VPN ที่ดีเยี่ยม 2 เจ้าได้แก่ ExpressVPN และ NordVPN ที่เราคิดว่าจะมีประโยชน์กับคุณมาก
คุณคิดว่าบล็อกนี้มีประโยชน์หรือไม่ และช่วยคุณตอบคำถามได้หรือเปล่า โปรดแสดงความคิดเห็นและมาแชร์ความคิดของคุณ