วิธีแก้รหัสข้อผิดพลาด Netflix สำหรับเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นทางภูมิศาสตร์

Download Astro
Download Astro
27 พฤษภาคม 2022
Image result for movie night netflix
 
ลองนึกภาพเวลาว่างยามเย็นนัดกันนั่งดู Rick and Morty ใน Netflix กับเพื่อน คุณจัดแจงทุกอย่างไว้เรียบร้อยพร้อมใช้ เตรียมป๊อปคอร์น ผ้าห่มแสนอุ่น และก็ช็อกโกแล็ตร้อนแก้วใหญ่พิเศษไว้แล้วด้วย
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จนกระทั่งเมื่อคุณเปลี่ยนไปใช้ VPN เพื่อดูซีรีส์ที่ของต่างประเทศเท่านั้นแหละ คุณก็ได้รับรหัสข้อผิดพลาดของ Netflix เนื่องด้วย Netflix ตรวจจับได้ว่าคุณใช้ VPN และระบบจึงปิดลงไม่สามารถเข้าถึงได้ไปเสียดื้อ ๆ
ปัญหานี้เกิดจาการที่ Netflix มีข้อผู้มัดกับผู้จัดทำสื่อ โดย Netflixได้เซ็นสัญญากับผู้จัดทำสื่อทั่วโลก ซึ่งทำให้ บริการสตรีมมิ่งรายนี้ต้องให้บริการโดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงทางด้านความเป็นส่วนตัวของสื่อแต่ละเจ้า ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้โชว์บางรายการสามารถฉายได้ทั่วทุกประเทศ ขณะที่บางโชว์กลับถูกจำกัดไว้เพียงแค่ประเทศเดียวเท่านั้น และเพื่อเป็นการแสดงถึงการให้เกียรติผู้จัดทำสื่อ Netflix จึงตัดสินใจทำการปราบปรามการใช้ VPN
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ Netflix ได้สร้างระบบตรวจจับ VPN ที่ดีเยี่ยม ซึ่งระบบนี้จะแยกที่อยู่ IP ที่เป็นของ VPN หลังจากที่มันสังเกตพบการจราจรจำนวนมาก จากนั้นที่อยู่ IP ที่ถูกตรวจเจอจะถูกแบน และคุณจะถูกบังคับให้เปลี่ยนไปใช้ที่อยู่ IP อื่นที่สามารถทำการสตรีมได้ ปัญหาก็คือ ที่อยู่ IP นั้นมักจะถูกบล็อกภายหลังจากที่ Netflix ได้ตัดสินว่ามันถูกนำไปใช้เพื่อสตรีมเนื้อหาด้วยเช่นกัน
แต่ Netflix เองก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่การตรวจจับที่อยู่ IP เท่านั้น มันยังมีเจตนาที่จะบล็อกพอร์ตที่มักถูก VPN ใช้ในเว็บไซต์ของ Netflix เองด้วย โห! เจ้า Netflix นี่ก็เก่งเอาเรื่องนะ
แต่ก็ยังถือว่าโชคดี เพราะยังคงมีอีกหลายวิธีที่จะเลี่ยงไม่ให้ VPN ถูกแบน ยังคงมีบริการอีกมากมายหลายเจ้าที่สามารถหลบหลีกไม่ให้โดนแบน และให้สิทธิ์ผู้ใช้ได้เข้าถึงเนื้อหาที่พวกเขาชื่นชอบ และข้อความด้านล่างนี้เป็นวิธีการดู VPN และลักษณะเด่นของ VPN ที่ดีซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดการรับชมรายการที่คุณโปรดปราน
 
 
หา VPN ที่มีที่อยู่  IP และตำแหน่งที่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก
VPN บางเจ้ามีจำนวนที่อยู่ IP เยอะมากจนเป็นไปไม่ได้เลยที่ Netflix จะสามารถจับได้ว่าผู้ใช้กำลังสตรีมเนื้อหาอยู่ เนื่องด้วยการจราจรนั้นถูกแบ่งกระจายออกไประหว่าง IP และตำแหน่งที่ตั้งที่แตกต่างกันทั้งหมด ทำให้ Netflix ติดตาม IP ที่กำลังทำการสตรีมอยู่จริงได้อย่างยากลำบาก อีกอย่าง ที่อยู่ IP เหล่านั้นก็มักตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันไปอีกด้วย ซึ่งทำให้ระบบตรวจจับของ Netflix ทำงานยากเข้าไปอีก
 
 
เปลี่ยนโปรโตคอลที่  VPN ของคุณใช้อยู่
VPN ดี ๆ หลายเจ้ามีโปรโตคอลหลายแบบให้คุณนำมาใช้ประโยชน์ บางโปรโตคอลมีความรัดกุมและให้การปกป้องมากกว่า เช่น OpenVPN ขณะที่โปรโตคอลอื่น ๆ มีความเก่ากว่า และรัดกุมน้อยกว่า เช่น PPTP และ L2TP/IPsec ในตอนนี้ OpenVPN เป็นโปรโตคอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดและ VPN ก็นิยมนำโปรโตคอลนี้มาใช้กันแพร่หลาย ซึ่งทำให้มันกลายเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดที่ระบบตรวจจับของ Netflix จะมุ่งจับตามอง และถึงแม้ว่าใน VPN บางเจ้าอาจจะยังสามารถดูเนื้อหารายการต่าง ๆ โดยใช้โปรโตคอล OpenVPN การใช้โปรโตคอลอื่นที่เป็นที่รู้จักน้อยกว่าหน่อยก็ย่อมเป็นวิธีที่ดีกว่าอยู่ดี
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือ เลือก VPN ที่มีโปรโตคอล PPTP, L2TP/IPsec, SSH, SSL/TLS, SSTP, หรือ IKEv2/IPsec ทั้งนี้ ยังมี VPN หลายเจ้าที่ใช้โปรโตคอลเหล่านี้อยู่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นที่แนะนำใช้กันมากนักเมื่อดูจากประสิทธิภาพโดยรวมเมื่อเทียบกับ OpenVPN อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงจุดประสงค์ที่จะเลี่ยงการเป็นจุดสนใจของ Netflix แล้วล่ะก็ โปรโตคอลเหล่านี้ถือว่าทำงานได้ยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว
 
 
หา VPN ที่ทำให้การจราจรเกิดการสับสน
VPN หลายเจ้าให้คำจำกัดความตัวเองว่าเป็น VPN ลึกลับ หรือ ‘Stealth VPN’ ชื่อนี้ฟังดูดีและให้ความรู้สึกรัดกุม หากแต่บริการเหล่านั้นจะมีความแตกต่างจาก VPN ธรรมดาหรือเปล่า
‘Stealth VPN’ เป็นเครือข่ายส่วนตัวเสมือนที่สามารถอำพรางกิจกรรมการท่องเว็บของคุณให้ดูเหมือนกับเป็นการท่องเว็บแบบธรรมดาที่ไม่ได้มีการส่งไปโดยเส้นทางต่าง ๆ ทั้งนี้เมื่อดูแบบผิวเผิน VPN ส่วนใหญ่จะทำให้กิจกรรมการท่องเว็บของคุณดูเหมือนว่ามาจากตำแน่งที่ตั้งที่คุณเลือก แต่เมื่อมีการตรวจสอบลึกเข้าไปก็จะสามารถเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วข้อมูลนั้นมาจาก VPN และ Stealth VPN ก็เลี่ยงประเด็นนี้ได้โดยการก่อความอลหม่านให้แก่การจราจรของคุณ
เมื่อ VPN ทำให้การจราจรเกิดความสับสนวุ่นวาย มันจะลบ meta data จากกลุ่มข้อมูลที่ระบุชี้ว่าข้อมูลนั้นมีแหล่งมาจาก VPN จากนั้นจึงผูกแหล่งการจราจรผ่านทางพอร์ตเว็บ (#443) ซึ่งเป็นพอร์ตพื้นฐานสำหรับ HTTPS เมื่อไม่ได้ใช้ VPN มันจึงทำให้ข้อมูลทั้งหมดของคุณดูเหมือนข้อมูลท้องถิ่นในโปรโตคอล HTTPS ทุกประการ คุณลักษณะเด่นที่แยบยลนี้ทำให้ Netflix เกือบจะไม่สามารถจับได้ว่าคุณกำลังใช้ VPN อยู่จากต่างประเทศเลย
 
 
ซื้อที่อยู่ IP เองโดยเฉพาะ
การซื้อที่อยู่ IP ใช้เองโดยเฉพาะเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการหลีกเลี่ยงการถูก Netflix แบนได้
เมื่อคุณซื้อที่อยู่ IP คุณจะได้เป็นเจ้าของที่อยู่นั้นแต่เพียงผู้เดียวไม่ว่าที่อยู่ IP นั้นจะมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ที่ใด ดังนั้น หากมีการจราจรใด ๆ ผ่านไปยังที่อยู่ IP นั้นมันก็จะเป็นการจราจรของคุณเอง ด้วยเหตุผลนี้ มันก็เป็นไปได้ยากที่คุณจะสร้างการจราจรมากพอที่ Netflix จะหันมาสนใจ ซึ่งการท่องเว็บของคุณจะปรากฏให้เห็นเหมือนเป็นการท่องเว็บจากบ้านธรรมดา ๆ เท่านั้น
 
ดังนั้น ถ้าหากคุณยังคงกำลังต่อสู้กับวิถีทางปราบปรามของ Netflix ในการสตรีมซีรีส์เรื่องโปรดจากต่างประเทศอยู่ล่ะก็ เราแนะนำให้คุณลองนำเคล็ดลับที่กล่าวไว้ด้านบนนี้ไปใช้เพื่อให้สามารถดูรายการต่าง ๆ ได้อย่างราบลื่นอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังมี VPN ชั้นดีหลายเจ้าที่ยังให้คุณสามารถเข้าชม Netflix ได้ รีบหันกลับไปคว้าป๊อปคอร์น ช็อกโกแล็ตร้อน ผ้าห่มอุ่น และพร้อมเพลิดเพลินไปกับการดูภาพยนตร์จากทุก ๆ ที่แบบไม่สะดุด