เบื้องต้นเกี่ยวกับ Dedicated IP VPN – VPN เจ้าไหนดีที่สุดสำหรับการใช้ Static IP และเจ้าไหนที่ควรเลี่ยง

Download Astro
Download Astro
28 พฤษภาคม 2022

 

เรื่องความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นเหมือนปัญหาเรื้อรังของการใช้งานอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเลยมีทางแก้ปัญหาใหม่ๆ ปรากฎในท้องตลอดอยู่เรื่อยๆ Virtual Private Network  (VPN; เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) นั้นครองตลาดบริการนี้อยู่ โดย VPN นำเสนอการรักษาความปลอดภัยและประสบการณ์การออนไลน์ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ VPN แบบ dedicated IP ถือว่าเป็นรูปแบบการให้บริการ VPN ที่ดีที่สุดในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
 
เนื่องจากมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากตัดสินใจหันมาใช้ dedicated IP VPN (ซึ่งใช้ static IP) แทน VPN แบบปกติ เราจึงขอนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่คือทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ dedicated IP VPN ว่าเจ้าไหนที่ดีที่สุดในท้องตลาด และเจ้าไหนที่ควรเลี่ยงหากคุณต้องการรักษาความเป็นส่วนตัว
 
ประโยชน์ของการใช้ Dedicated IP VPN
 
ท่ามกลางผู้ให้บริการ VPN หลากหลายเจ้า มีเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่ให้บริการ dedicated IP address หากคุณตัดสินใจจะใช้บริการนี้ คุณจะได้รับที่อยู่ IP แบบคงที่ (static) เป็นของตนเอง แต่ละที่อยู่ IP นั้นแตกต่างกัน และคุณจะไม่ใช้ที่อยู่ IP ดังกล่าวร่วมกับบุคคลอื่นที่ใช้บริการจากผู้ให้บริการ VPN เจ้าเดียวกัน
 
Related imageRelated image
 
นี่คือข้อประโยชน์ 5 ข้อหลักๆ ของการท่องโลกออนไลน์ผ่าน VPN ที่ให้ static IP แก่คุณ
 
ประสบการณ์การออนไลน์ที่ดีเยี่ยม
 
เพื่อปกป้องเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขา หลายเว็บไซต์นั้นติดตั้งมาตรการป้องกันสิ่งคุกคามจากอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก สมมติว่าคุณใช้บริการ VPN แบบทั่วไปเพื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ หากมีผู้ใช้งานคนอื่นกำลังใช้ VPN เจ้าเดียวกับคุณอยู่ เขาจะเข้าเว็บไซต์โดยใช้ที่อยู่ IP เหมือนคุณ
 
และถ้าหากเขาเข้าเว็บไซต์เดียวกับคุณ คุณมีความเสี่ยงที่จะถูกบล็อก IP เนื่องจากมาตรการป้องกันสิ่งคุกคามดังกล่าว หากคุณใช้ dedicated IP VPN เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะที่อยู่ IP ของคุณนั้นคงที่ และไม่เหมือนใคร
 
 
การสตรีมมิ่งวิดีโอแบบไร้ที่ติ
 
บริการวิดีโอสตรีมมิ่งส่วนใหญ่ รวมถึง Hulu, Amazon และ Netflix นั้นบล็อกที่อยู่ IP ที่ผู้ใช้งานหลายคนใช้พร้อมๆ กัน โดยกระบวนการบล็อกดังกล่าวเป็นระบบอัตโนมัติ หากซอฟต์แวร์ของเว็บสตรีมมิ่งนั้นพบว่ามีผู้ใช้งานที่มีที่อยู่ IP เหมือนกัน ที่อยู่ IP ดังกล่าวจะถูกบล็อกและจะถูกบันทึกในรายชื่อของผู้โดนบล็อก
 
ถ้าหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นคงน่าเสียดาย โดยเฉพาะถ้าคุณตัดสินใจใช้บริการ VPN เพราะแค่ต้องการเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งที่บล็อกไม่ใช่เข้าชมในบางพื้นที่ และเช่นเคย static IP VPN นั้นป้องกันปัญหาดังกล่าวให้คุณได้
 
 
การพิสูจน์ตัวตนแบบไร้ร่องรอย
 
มาตรการการพิสูจน์ตัวตนนั้นกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน นี่คือวิธีที่ผู้ให้บริการใช้ปกป้องผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและกำจัดบ็อต (bot) ออกจากระบบ หากคุณใช้ VPN แบบปกติ คุณจะต้องพบกับขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตนเยอะมาก เพราะการที่คนหลายคนนั้นใช้ที่อยู่ IP เหมือนกันมักจะไปกระตุ้นระบบเรียกร้องให้คุณพิสูจน์ตัวตน แต่หากใช้ dedicated IP คุณจะท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างราบรื่น เข้าสู่ระบบบัญชีออนไลน์ของคุณได้ง่ายขึ้นมาก
 
การเล่นเกม
นั้นจะช่วยให้คุณสนุกกับเกมโปรดโดยไม่ต้องพบปัญหาเรื่องการถูกตัดจากระบบเพื่อขอให้พิสูจน์ตัวตน

 
 
การทำธุรกรรมกับธนาคาร
 
เพื่อป้องกันลูกค้าและระบบการดำเนินการ ธนาคารนั้นมักจะบล็อกที่อยู่ IP ที่มีผู้ใช้ร่วมกันหลายคน และด้วย dedicated IP คุณสบาบใจได้ว่าจะไม่เจอปัญหานี้
 
Dedicated IP VPN เจ้าที่ดีที่สุด
 

ตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เราเสนอแน่นอนว่าคือ NordVPN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ไม่มีนโยบายในการบันทึกประวัติการเข้าใช้งาน NordVPN นั้นยังเสนอบริการ dedicated IP อีกด้วย VPN เจ้านี้มีฐานอยู่ในปานามา โดยลูกค้าของพวกเขาได้รับข้อเสนอในการเข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก
 
แอพของ NordVPN นั้นใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการทุกประเภท และด้วยราคาที่ถือว่าสมเหตุสมผลหากเทียบกับเจ้าอื่น โดยราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกับหน่วยบริการลูกค้าแบบไลฟ์แชทตลอด 24 ชั่วโมง และนโยบายคืนเงินภายใน 30 วันหากไม่พอใจ ทำให้ VPN เจ้านี้คืออันดับ 1 ในรายชื่อที่เราคัดสรร
 
การใช้บริการ dedicated IP กับ NordVPN นั้นเสียค่าบริการ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี โดยตำแหน่งของ dedicated IP ที่ใช้งานได้ตอนนี้ได้แก่
● ลอนดอน สหราชอาณาจักร
● บัฟฟาโล่ ลอสแอนเจลิส ดัลลัส สหรัฐอเมริกา
● อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
● แฟรงก์เฟริ์ต ประเทศเยอรมนี
 

VPNArea นั้นเป็นผู้ให้บริการ VPN ที่มีฐานอยู่ในประเทศบัลแกเรีย VPNArea ขยายบริการของพวกเขาและรวมถึงการให้บริการ dedicated IP address ในเวอร์ชั่นมาตรฐานด้วย VPN ของเจ้านี้ยังรองรับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์หลักๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้คุณสามารถใช้บัญชีเดียวในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มากที่สุดถึง 6 เครื่องพร้อมๆ กัน ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ทีเดียว
 
VPNArea ยังทำงานโดยไม่มีการบันทึกประวัติการเข้าใช้งาน และด้วยการเข้ารหัสที่แน่นหนาและมีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ VPNArea จึงควรค่าในอันดับคัดสรรของเรา หากเทียบกับ NordVPN แล้ว VPNArea นั้นมีราคาที่ยืดหยุ่นหลากหลายกว่า โดยราคาขึ้นกับตำแหน่งที่คุณเลือกได้แก่
● ออสเตรเลีย 79 ดอลลาร์สหรัฐ
● สหราชอาณาจักร 40 ดอลลาร์สหรัฐ
● เนเธอแลนด์ 30 ดอลลาร์สหรัฐ
● แคนาดา 30 ดอลลาร์สหรัฐ
● เยอรมนี 30 ดอลลาร์สหรัฐ
● โรมาเนีย 30 ดอลลาร์สหรัฐ
● สหรัฐอเมริกา 20 ดอลลาร์สหรัฐ
 
Related image
TorGuard มีฐานที่ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และให้บริการแจกจ่าย IP แก่ลูกค้าด้วยเช่นกัน VPN เจ้านี้ยังแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้คุณเลือกจับคู่ฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ตามแบบที่คุณต้องการใช้งานได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าจะไม่มีโนบายเกี่ยวกับการบันทึกประวัติการเข้าใช้ ผู้ให้บริการ VPN เจ้านี้ก็พบปัญหาในการดึงดูดลูกค้าเพราะตำแหน่งที่ตั้งที่มีฐานในสหรัฐอเมริกา ToRGuard นั้นต้องตกอยู่ในเรื่องความขัดแย้งของการบังคับใช้กฎเรื่องความเป็นส่วนตัวของ 5 Eyes อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันบริการของเจ้านี้ยังคงมีประวัติขาวสะอาดและมีชื่อเสียงที่ดี (ไม่มีเรื่องการรั่วไหลของข้อมูล)
 
ขณะที่ค่าบริการนั้นตายตัวอยู่ที่ 15.98 เหรียญสหรัฐ คุณสามารถเลือกตำแหน่งที่คุณใช้บริการ dedicated IP VPN ของ TorGuard ได้ดังนี้
● สหราชอาณาจักร
● สหรัฐอเมริกา
● สิงคโปร์
● อิตาลี
● ฟินแลนด์
● ฝรั่งเศส
● สเปน
● ญี่ปุ่น
● เยอรมนี
 
 
Dedicated IP VPN เจ้าที่ควรเลี่ยง
ถึงแม้ว่าจะให้ static IP address แก่ผู้ใช้งานได้ก็ตาม ผู้ให้บริการ VPN เหล่านี้ยังไม่น่าไว้วางใจในทางปฏิบัติเรื่องการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
 
Related image
ปัญหาแรกที่เราเจอเกี่ยวกับ VPN Unlimited คือความเร็วอินเทอร์เน็ต บางครั้งความเร็วอินเทอร์เน็ตก็สูง แต่บางครั้งก็ช้ามาก นอกจากนี้เรายังพบปัญหาในการเชื่อมต่อบ้างเล็กน้อย
ปัญหาหลักของบริการเจ้านี้คือเรื่องของความเป็นส่วนตัว แรกสุดคือไม่มีระบบ kill switch  (ตัดการเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตอัตโนมัติเมื่อปิด VPN) นั่นหมายความว่าคุณจะเสี่ยงต่ออันตรายทุกครั้งที่คุณตัดสินใจเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ และทั้ง DNS (domain name server) และที่อยู่ IP จะรั่วไหลในช่วงนั้น และทำให้คุณต้องพบกับความเสียหายได้
 

Pure VPN นั้นเป็นอีกหนึ่งบริการที่ควรเลี่ยง อย่างน้อยก็ตอนในตอนนี้ ต่อให้เราไม่สนเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ช้าและปัญหาในการเชื่อมต่อของบางเซิร์ฟเวอร์ แต่เราก็พบว่าบริการเจ้านี้มีปัญหาเรื่องการรั่วไหลของที่อยู่ IP และ DNS อยู่ดี
 
PureVPN  นั้นต่างจาก VPN Unlimited ตรงที่มีระบบ kill switch แต่ก็น่าเสียดายที่มันใช้งานไม่ได้และและคุณต้องเสี่ยงต่ออันตรายขณะที่เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์อยู่ดี นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีนโยบายบันทึกประวัติการใช้งาน  แต่ผู้ให้บริการ VPN เจ้านี้ช่วย FBI ในการเปิดเผยตัวตนผู้ใช้บริการของพวกเขา นั่นถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในการใช้อินเทอร์เน็ตแบบไม่ต้องการให้ใครรู้ตัวตน
 
ทั้งหมดที่เราเอามาฝากนั้นหวังว่าจะช่วยให้คุณเห็นประโยชน์ของการใช้บริการ static IP VPN ตอนนี้คุณคงทราบแล้วว่าผู้ให้บริการ VPN เจ้าไหนที่ดีที่สุดและเจ้าไหนที่ควรหลีกเลี่ยง ขอให้ตัดสินใจอย่างฉลาด และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียว่าผู้ให้บริการ VPN เจ้าไหนที่จะเหมาะกับความต้องการของคุณ