10 อันดับยอดเยี่ยมของบริการ VPN ฟรี ปี 2019

Download Astro
Download Astro
27 พฤษภาคม 2022

 

ในขณะที่เรื่องความเป็นส่วนตัวในการออนไลน์นั้นลดน้อยลงเรื่อยๆ และเนื้อหาที่ถูกบล็อคหรือเซ็นเซอร์ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเลยหันมาใช้ Virtual Private Network  (VPN; เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) เป็นทางออกสำหรับปัญหาดังกล่าว หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวแล้ว การใช้งาน VPN นั้นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก
อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกคนจะมีเงินจ่ายบริการ VPN แบบพรีเมียม แต่โชคยังดีที่มีบริการทางเลือกแบบใช้งานฟรีอยู่หลายเจ้า ข้อเสนอแบบประหยัดเงินนี้อาจจะไม่มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อนที่ VPN ชั้นน้ำนั้นให้บริการ แต่บริการ VPN ฟรีดังกล่าวยังถือว่าช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัว และยังช่วยในการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ที่ถูกเซ็นเซอร์จำนวนมาก
นี่เป็น 10 อันดับบริการ VPN ฟรีที่ดีที่สุดที่เราขอเสนอ
 
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: 8 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 1 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: แคนาดา
ข้อดี:
• ปริมาณข้อมูลสูงสุดที่ให้บริการต่อเดือนมากถึง 10GB
• แอพที่ใช้งานง่าย
• บริการด้านความเป็นส่วนตัวและใช้การเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง
ข้อเสีย:
• การบริการลูกค้าแย่กว่าเจ้าอื่นโดยเฉลี่ย
• มีเพียงแค่บางเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้
 
ด้วยการเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยม และนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวที่รัดกุมมากๆ แถมปริมาณข้อมูลสูงสุดที่ให้บริการฟรียังมากถึง 10GB ต่อเดือน Windscribe นั้นถือว่าเป็นตัวเต็งหากพูดถึง VPN ฟรี เซิร์ฟเวอร์ที่เรียกว่า“Windflix”ของเจ้านี้ยังช่วยให้คุณเข้าชม Netflix และยังให้คุณใช้งาน torrent ในขณะที่ใช้งาน VPN ได้อีกด้วย เมื่อผสานฟีเจอร์เหล่านี้เข้าด้วยกันทำให้ VPN เจ้านี้ถือว่าเป็นบริการที่สารพัดประโยชน์ทีเดียว
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: 1,000 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 20 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 5 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: แคนาดา
ข้อดี:
• มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์ให้บริการเยอะ
• ใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลายเครื่องพร้อมกัน
• บริษัทตรวจสอบบัญชีด้วยตนเองเพื่อนโยบายรักษาความปลอดภัย
ข้อเสีย:
• ปริมาณข้อมูลสูงสุดที่ให้บริการต่อเดือนเพียง 500MB
• ใช้เพื่อรับชม Netflix ไม่ได้
VPN ที่ใช้งานฟรีส่วนใหญ่แล้วมักจะมีจำนวนเซิร์ฟเวอร์ให้คุณเชื่อมต่อใช้งานไม่กี่เซิร์ฟเวอร์ แต่ TunnelBear โดดเด่นด้วยจำนวนเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้บริการฟรีถึง 1,000 เซิร์ฟเวอร์ บริการเจ้านี้ยังมีบริการโปรโตคอลเพื่อการเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยม และเซิร์ฟเวอร์ยังยอมให้ใช้งานกับ torrent อีกด้วย แต่ข้อเสียคือปริมาณข้อมูลที่ให้บริการจำกัดอยู่แค่ 500mb ต่อเดือน ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบ่อยๆ
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: 3 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 1 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: สวิตเซอร์แลนด์
ข้อดี:
• ไม่จำกัดปริมาณข้อมูลในการให้บริการ
• ใช้งานกับ Tor ได้
• บริการความเป็นส่วนตัวดีเยี่ยม
ข้อเสีย:
• ใช้งานกับระบบ P2P (Peer-to-peer)ไม่ได้
• มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์น้อย
หากคุณกำลังมองหา VPN ที่ไม่จำกัดปริมาณข้อมูลที่ให้บริการ บริการเจ้านี้แหละคือสิ่งที่คุณตามหา ProtonVPN ไม่จำกัดปริมาณข้อมูลที่ให้บริการกับผู้ใช้งานแบบฟรี อย่างไรก็ตามบริการก็มีข้อจำกัดอื่นๆ สองสามข้อ ได้แก่ ผู้ใช้งานฟรีนั้นถูกจำกัดให้ใช้งานได้แค่เซิร์ฟเวอร์ในสามแห่ง และความเร็วนั้นต่ำกว่าผู้ใช้งานแบบเสียค่าบริการ อย่างไรก็ตามหากคุณวางแผนว่าจะใช้งาน VPN มากๆ นี่อาจจะเป็นบริการที่เหมาะกับคุณ
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 30 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 20 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 5 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: สหรัฐอเมริกา
ข้อดี:
• ระบบเข้ารหัสที่ดีเยี่ยม
• ให้ความเร็วสูง
• ระบบเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ดี
ข้อเสีย:
• ใช้เพื่อรับชม Netflix ไม่ได้
• ใช้งานกับ Torrent ไม่ได้
ชื่อของ VPN ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า Speedify นั้นเน้นเรื่องการให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงขณะที่คุณใช้บริการของเขา VPN เจ้านี้นอกจากจะถือว่าเป็นหัวแถวในด้านความเร็วแล้ว ยังเสนอระบบเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ดีเยี่ยม และยอมให้เชื่อมอุปกรณ์ได้ถึง 5 เครื่องได้พร้อมๆ กัน Speedify ยังใช้งานกับ Tor ได้กับท่านที่สนใจจะใช้งานโปรแกรมดังกล่าวควบคู่กับการใช้บริการ VPN
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 3 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 1  เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: มาเลเซีย
ข้อดี:
• ไม่มีโฆษณา
• รองรับการใช้งานโปรโตคอล VPN แบบหลายจุดพร้อมกัน
• แผนกบริการลูกค้ายอดเยี่ยม
 
ข้อเสีย:
• มีเซิร์ฟเวอร์จำนวนจำกัด
• ประสิทธิภาพการทำงานไม่โดดเด่น
Hide.me นั้นเสนอบริการ VPN ฟรีที่มีข้อดีหลายด้าน อย่างแรกคือตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของกลุ่มประเทศสหพันธ์ 5/9/14 Eyes และ VPN นี้ยังมีระบบการเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยม และสามารถใช้งานโปรโตคอล VPN แบบหลายจุดพร้อมกัน (multiple VPN protocols) แม้ว่าปริมาณข้อมูลในการให้บริการจำกัดที่ 2GB จะไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าพอๆ กับ VPN ฟรีของเจ้าอื่นๆ
 
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 9 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 1 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: จีน
ข้อดี:
• ไม่จำกัดปริมาณข้อมูลในการให้บริการ
• ใช้งานกับ Torrent ได้
• การรักษาความปลอดภัยที่ดี
 
ข้อเสีย:
• มีโฆษณา
• มีข้อจำกัดในเรื่องการบริการลูกค้า
Turbo VPN นั้นเป็นบริการ VPN ฟรีอีกเจ้าที่ไม่จำกัดปริมาณข้อมูลในการให้บริการ แล้วข้อดีสำคัญอีกข้อคือยอมให้คุณใช้งานกับ Torrent ได้ นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้บริการสำหรับการดาวน์โหลดแบบ P2P (Peer-to-peer) โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณข้อมูลที่ใช้ ข้อเสียข้อเดียวคือคุณต้องเจอกับโฆษณา แต่ถ้าคุณไม่ใส่ใจเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นบริการฟรีที่ดี
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: 25 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 5 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: สหรัฐอเมริกา
ข้อดี:
• ปริมาณข้อมูลในการให้บริการจำกัดที่ 500MB ต่อวัน
• ความเร็วในการดาวน์โหลดยอดเยี่ยม
• ใช้เพื่อชม Netflix ได้
ข้อเสีย:
• นโยบายเรื่องการบันทึกประวัติการเข้าใช้งานยังไม่ชัดเจน
• ไม่มีแผนกบริการลูกค้าแบบไลฟ์แชท
นอกจากบริการแบบพรีเมียมที่ต้องเสียเงินแล้ว Hotspot Shield ยังเสนอบริการ VPN ฟรีอีกด้วย โดยเจ้านี้จำกัดปริมาณข้อมูลที่ให้บริการอย่างใจกว้างถึง 500MB ต่อวัน ซึ่งรวมแล้วใช้งานได้ถึง 15GB ต่อเดือน บริการนี้ช่วยให้คุณรับชมรายการของ Netflix ที่ถูกบล็อกในบางพื้นที่ได้อีกด้วย เมื่อรวมกับความเร็วในการดาวน์โหลดที่น่าประทับใจแล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมของ VPN ฟรี
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: 1,000 เซิร์ฟเวอร์
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: 25 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 5 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: แคนาดา
ข้อดี:
• มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์ให้บริการเยอะ
• ใช้งานกับ Torrent ได้
• ใช้เพื่อชม Netflix ได้
 
Cons:
• นโยบายเรื่องการบันทึกประวัติการเข้าใช้งานยังคงกำกวม
• ปริมาณข้อมูลสูงสุดที่ให้บริการต่อเดือนเพียง 500MB
 
SurfEasy นั้นเป็นบริการ VPN ที่รวมอยู่ในเว็บบราวเซอร์ Opera โดยโดดเด่นจากบริการ VPN ฟรีเจ้าอื่นด้วยจำนวนเซิร์ฟเวอร์มหาศาล และสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ได้ 5 เครื่องพร้อมกัน นอกจากนี้ยังใช้งานกับ Torrent และใช้รับชม Netflix ได้ แต่ปริมาณข้อมูลสูงสุดที่ให้บริการต่อเดือนเพียง 500MB นั้นอาจเป็นปัญหาหากคุณมีแผนที่จะดาวน์โหลดหรือรับชมรายการมากๆ
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 1 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: สหรัฐอเมริกา
ข้อดี:
• ไม่จำกัดปริมาณข้อมูลในการให้บริการ
• เข้าถึงรายการที่ถูกบล็อกในบางเขตพื้นที่ได้
• แอพในระบบแอนดรอยด์ใช้งานได้ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย:
• ใช้เพื่อรับชม Netflix ไม่ได้
• บล็อกเนื้อหาบางประเภท
Ultra Surf VPN เป็นบริการ VPN ฟรีที่ใช้งานได้ดีทั้งกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และยังได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าเป็น VPN ที่มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกบล็อกในบางพื้นที่บน YouTube, Facebook, Twitter, Spotify และ Skype ข้อเสียเดียวของ VPN เจ้านี้คือเลือกที่จะบล็อกเนื้อหาที่ Ultra Surf VPN รู้สึกว่าเป็นเนื้อหาที่ “ผิดกฎหมาย” แต่นั่นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่อยู่แล้ว
 
 
 
จำนวนเซิร์ฟเวอร์: (ไม่มีข้อมูล)
จำนวนตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์: มากกว่า 20 แห่ง
จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานสูงสุดในการเชื่อมต่อ : 1 เครื่อง
ประเทศ/ฐานที่ตั้ง: สหราชอาณาจักร
 
ข้อดี:
• ใช้งานกับ Torrent ได้
• ใช้งานง่าย
• ความเร็วสูง
ข้อเสีย:
• จำกัดบริการการใช้งานแค่ 1 ชั่วโมงต่อวัน
• มีการบันทึกประวัติการใช้งานบางส่วน
Hidema นั้นให้บริการ VPN มา 5 ปีแล้ว และก็ถือว่าเป็น VPN เจ้าที่ดีทีเดียว โดยหากเทียบกับ VPN ฟรีเจ้าอื่นแล้ว Hideman ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ้าที่ให้ความเร็วสูง ดังนั้นหากความเร็วเป็นเรื่องที่คุณให้ความสำคัญ VPN เจ้านี้อาจเหมาะกับคุณ ข้อเสียเพียงข้อเดียวคือเวอร์ชันฟรีนั้นจำกัดการใช้งานแค่ 1 ชั่วโมงต่อวัน