10 อันดับ VPN ฟรียอดเยี่ยมปี 2019 เพื่อใช้ในออสเตรเลีย

Download Astro
Download Astro
28 พฤษภาคม 2022

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
Virtual Private Network (VPN; เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) นั้นเป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพราะว่าเราอยู่ในยุคที่ยังไม่อาจแน่ใจว่าเรามีความเป็นส่วนตัวในกิจกรรมออนไลน์ของตัวเองหรือไม่ เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่า คนที่ใช้บริการ VPN นั้นก็เพื่อความมั่นใจว่าจะออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว นอกจากนี้เรารู้ว่าหลายคนต้องการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกบล็อคในบางเขตพื้นที่ และเชื่อว่าการเซ็นเซอร์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรมีอยู่ในอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ตามหากคุณไม่อยากจะจ่ายค่าบริการ VPN แบบที่เสียค่าสมาชิก คุณยังสามารถใช้บริการพิเศษดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยในการออนไลน์ของคุณได้อยู่ดีเพราะมีบริการ VPN ให้ใช้ฟรีมากมาย อย่างไรก็ตามมีแค่เพียงบ้างเจ้าเท่านั้นที่เราถือว่าเป็น VPN ฟรีที่ยอดเยี่ยมในการใช้ที่ประเทศออสเตรเลีย และนี่คือ 10 อันดับแรกจากการจัดอันดับในปี 2019
 
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เราตัดสินใจจัด Windscribe VPN ไว้ที่อันดับแรกของรายชื่อ นี่เป็น VPN ฟรีที่ดีที่สุดโดยคะแนนนำลิ่วจากเจ้าอื่นๆ ในออสเตรเลีย ทั้งในแง่ของการรักษาความปลอดภัยและขนาดของแบนด์วิธ คุณวางใจได้เลยว่าคุณจะซ่อนตัวอย่างมิดชิดจากอาชญากรไซเบอร์ที่คอยมาสอดส่องกิจกรรมออนไลน์ของคุณ แล้ว Windscribe เวอร์ชั่นฟรีนั้นก็มีเซิร์ฟเวอร์ให้คุณเลือกถึง 8 เครื่องซึ่งเซิร์ฟเวอร์ได้ตั้งอยู่ในตำแหน่งยุทธศาตร์ทั่วโลก และใช้อินเทอร์เน็ตได้ถึง 10 GB ต่อเดือน
และเพื่อเพิ่มอีกชั้นของความปลอดภัยให้แก่คุณ Windscribe นั้นจะไม่เก็บประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ ที่อยู่ IP และประวัติการเชื่อมต่อของคุณ หลังจากที่คุณใช้งานเสร็จสิ้นแล้ว ข้อมูลขนาดเล็กๆ ที่เก็บบนเซิร์ฟเวอร์นั้นจะถูกลบภายใน 3 นาที
 
#2  Opera VPN
 
ถ้าคุณชอบท่องอินเทอร์เน็ตผ่านบราวเซอร์ของ Opera คุณน่าจะดีใจที่พบว่าบริษัทเดียวกันนั้นเป็นผู้รับผิดชอบบริการ VPN ฟรีในชื่อเดียวกัน เวอร์ชันใหม่ของบราวเซอร์นี้มาพร้อมกับ VPN ที่รวมมาในตัวซึ่งเป็นฟีเจอร์มาตรฐานอีกด้วย
ผู้ใช้ VPN ของ Opera นั้นสามารถเชื่อมอุปกรณ์กับ VPN ได้ 5 ตัวพร้อมๆ กัน และมีเซิร์ฟเวอร์ให้ใช้งานถึง 1,000 เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ใน 25 ประเทศ การติดตั้งนั้นง่ายมาก และประสิทธิภาพการทำงานก็เหนือกว่าเจ้าอื่นๆ โดยเฉลี่ย แต่ฟีเจอร์ที่เป็นข้อเสียคือปริมาณข้อมูลให้จำกัดใช้ได้เพียง 500MB ต่อเดือน อย่างไรก็ตามหากคุณใช้ VPN นี้กับบราวเซอร์ของ Opera คุณจะใช้งานได้ไม่จำกัดปริมาณข้อมูล
 
TunnelBear นั้นกลายเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดของออสเตรเลียหลังจากที่ McAfee บริษัทรักษาความปลอดภัยด้านไอทีที่มีชื่อเสียงซื้อกิจการไป TunnelBear นั้นให้บริการทั้งลูกค้าที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้บริการของเขามีประโยชน์กับคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินทาง TunnelBear มี 1,000 เซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่มากกว่า 20 ประเทศ ซึ่งทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วอีกด้วย
 
ข้อเสียของ VPN เจ้านี้คือปริมาณข้อมูลให้ใช้จำกัดเพียงแค่ 500MB ต่อเดือน และตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ TunnelBear ผู้ให้บริการ VPN เจ้านี้รวบรวมข้อมูลบันทึกการใช้งานของผู้รับบริการไว้เล็กน้อย
 
#4  Proton VPN 
เราต่างรู้ดีว่า VPN ฟรีนั้นให้ปริมาณข้อมูลในการใช้อินเทอร์เน็ตจำกัดเพียงใด และนี่คือเหตุผลที่เราจัด Proton VPN ลงในอันดับด้วย Proton VPN นั้นเป็นหนึ่งในบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับออสเตรเลีย เพราะไม่มีการจำกัดปริมาณข้อมูลที่ใช้ อย่างไรก็ตามบริการเจ้านี้ก็มีข้อเสียที่คุณต้องรู้ไว้ ตัวอย่างเช่น คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์กับ VPN เจ้านี้ได้เพียงแค่ทีละเครื่อง และคุณเลือกตำแหน่งได้เพียง 3 แห่งเท่านั้น และหากมีผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิกแบบเสียเงินออนไลน์อยู่จำนวนมากในขณะนั้น คุณอาจจะพบว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ตนั้นช้าลง เพราะเขาเน้นความสำคัญกับสมาชิกกลุ่มพรีเมียมมากกว่ากลุ่มใช้งานฟรี
 
นอกจากนี้ VPN เจ้านี้ยังไม่รองรับระบบ P2P แต่หากพิจารณาถึงการใช้งานได้ไม่จำกัดเพื่อใช้กับเนทีฟไคลเอนท์ (native client) สำหรับระบบปฏิบัติการอย่าง Windows, Mac, Linux, iOS และ Android แล้วล่ะก็ Proton VPN นั้นถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
 
#5  Hola VPN
บริการของ Hola VPN นั้นแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ แทนที่จะใช้งานเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว Hola นั้นใช้ประโยชน์จาก VPN ในระบบ P2P (Peer-to-peer) Hola VPN มีเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Hola ได้ปลอดภัย หากคุณตัดสินใจจะใช้ Hola VPN คุณจะกลายเป็นหนึ่งในเครือข่ายเช่นกัน
 
VPN เจ้านี้มีข้อดีด้านการรักษาความปลอดภัยที่มาจากธรรมชาติของเส้นทางการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงได้ นั่นหมายความว่าจะไม่มีเส้นทางหรือจุดหมายของเซิร์ฟเวอร์ที่ตายตัว แต่คุณต้องรู้ไว้ว่า Hola ติดตามและรวบรวมข้อมูลนิรนามจำนวนมากทีเดียว ซึ่งรวมถึงจุดเริ่มต้นและเป้าหมายของการขอใช้งานออนไลน์ในแต่ละครั้งด้วย
 
#6  Turbo VPN
 
หากคุณเป็นผู้ใช้งานที่ไม่ได้เรียกร้องเรื่องฟีเจอร์ ความเป็นส่วนตัว และประสิทธิภาพการทำงานที่ล้ำหน้านัก Turbo VPN อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีของคุณ Turbo VPN ในเวอร์ชันฟรีนั้นไม่จำกัดปริมาณของข้อมูลที่ให้บริการ และเข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์ได้จาก 9 ตำแหน่ง Turbo VPN ใช้เนทีฟแอปพลิเคชั่นของ Android ซึ่งทำให้บริการของเจ้านี้กลายเป็นหนึ่งใน VPN ที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนนิยมใช้ที่สุด
 
Turbo VPN เป็นเครือข่ายที่ไม่มีการบันทึกประวัติการใช้งาน อย่างไรก็ตามมีหนึ่งในปัญหาของการใช้บริการเจ้านี้ก็คือ คุณต้องยินยอมข้อตกลงหลายอย่างตอนติดตั้งแอปของ Turbo VPN และคุณต้องตระหนักไว้ว่าในแอปนั้นมีโฆษณาแทรกเยอะมาก ซึ่งหลายๆ คนมองว่ามันน่ารำคาญ
 
VPN Proxy Master เป็นหนึ่งในบริการ VPN สำหรับโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุด มันใช้งานได้ทั้งกับผู้ใช้งาน Android และ iOS บริการเจ้านี้มีเซิร์ฟเวอร์ 6 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามแอปทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ของ VPN Proxy Master นั้นมีโฆษณาแทรกจำนวนมาก
 
ผู้ให้บริการเจ้านี้ไม่บันทึกประวัติการเข้าใช้งาน และให้บริการฟรีทุกอย่างแถมไม่จำกัดปริมาณข้อมูลในการใช้งาน  อย่างไรก็ตามถึงแม้ VPN Proxy Master จะโฆษณาว่าเป็น VPN ฟรีสำหรับโทรศัพท์มือถือที่เร็วที่สุด ประสิทธิภาพการทำงานกลับไม่ค่อยมีความเสถียรมากนัก ถึงกระนั้น VPN Proxy Master ก็มีข้อดีอีกข้อคือใช้ปลดบล็อคการเข้าชม YouTube, Netflix และ Comedy Central ได้ด้วย
 
 
Ultrasurf นั้นเป็นบริการ VPN ฟรีสำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ของโทรศัพท์มือถือ และ Windows ของเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น ขั้นตอนการติดตั้งนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา นโยบายด้านความเป็นส่วนตัวระบุว่า Ultrasurf ไม่บันทึกประวัติการเข้าใช้เครือข่ายซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะติดตามและบันทึกข้อมูลของผู้ใช้งานให้น้อยที่สุด ในขณะที่ที่อยู่ IP นั้นถูกซ่อนอยู่ตลอดเวลา และข้อมูลที่ถูกรวบรวมไว้นั้นจะถูกลบหลังจากนั้น 30 วัน
 
VPN เจ้านี้ไม่จำกัดการปริมาณข้อมูลที่ให้บริการ และมาในรูปของแอปของระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานนั้นเพลิดเพลินกับการท่องอินเทอร์เน็ตได้แม้ว่ากำลังใช้ WiFi อยู่ และจำนวนโฆษณาคั่นนั้นก็ถือว่าน้อยกว่าแอป VPN ของเจ้าอื่นมาก
 
Speedify VPN นั้นมุ่งเน้นที่จะให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและมีความเร็วสูงแก่ผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานฟรีก็ยังได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีเรื่องความเร็วของ Speedify ด้วยเช่นกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณไม่ได้จ่ายเงิน คุณก็เพลิดเพลินกับการท่องอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ด้วย
 
ข้อเสียอย่างเดียวคือปริมาณข้อมูลที่ให้บริการฟรีนั้นจำกัดแค่ 4 GB สำหรับเดือนแรก และ 1 GB สำหรับเดือนถัดไป
 
Hotspot Shield VPN นั้นถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่ออนไลน์บนไวไฟสาธารณะซึ่งไม่ปลอดภัยอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะ เวอร์ชั่นฟรีนั้นจะเลือกตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ให้คุณอัตโนมัติ และยอมให้คุณใช้ VPN เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ 5 เครื่องพร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ให้บริการฟรีในแต่ละวันนั้นจำกัดอยู่ที่ 500 MB ดังนั้นบริการเจ้านี้เหมาะกับคนที่ใช้งานน้อย
 
ถึงแม้ว่าแอปของ VPN ของเจ้านี้จะมีโฆษณาแทรก แต่คุณมั่นใจในด้านนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ว่าการปกป้องข้อมูลของคุณนั้นยังเป็นสิ่งที่บริการเจ้านี้ให้ความสำคัญที่สุด
 
นี่คือ 10 อันดับ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้ในออสเตรเลีย นอกจากนี้เรายังแนะนำด้วยว่าเจ้าไหนที่เหมาะกับความต้องการของคุณในแต่ละกรณี เพื่อช่วยคุณในการตัดสินใจว่า VPN เจ้าใดที่เหมาะกับความต้องการส่วนตัวของคุณที่สุด