ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปให้ความสนใจและเป็นกังวล และเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ผันเปลี่ยนไปมากขึ้น ทำให้เราใช้เวลาไปกับการออนไลน์มากยิ่งขึ้น ดังนั้นข้อมูลสำคัญของเราจึงมีโอกาสเสี่ยงในการถูกบุคคลอื่นขโมย หรือนำไปใช้ในทางที่ผิดมากขึ้นไปอีกด้วย
โดยหลักก็เพราะว่าเราซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ และใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการชำระค่าบริการต่าง ๆ ดังนั้นแฮกเกอร์จึงสามารถเข้าถึงรายละเอียดบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ของเราได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าอินเทอร์เน็ตจะทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นเท่าไหร่ แต่มันทำให้เราต้องเสี่ยงกับอันตรายในโลกออนไลน์มากขึ้นด้วยเช่นกัน
สิ่งใดบ้างที่คุณจะสามารถทำได้ เพื่อช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญและปิดกั้นประตูความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ทั้งหมดได้โดยสำเร็จ คำตอบของคำถามนี้ก็มาลงตัวที่ VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) ที่จะช่วยเข้ารหัสที่อยู่ IP ของคุณ ซึ่งทำให้ไม่มีใครสามารถรู้ที่อยู่ IP ของคุณ และไม่มีใครสามารถเข้าไปดูรู้ได้ว่าคุณเป็นใครมาจากไหน สุดยอดไปเลยไหมล่ะ
แต่ ถ้าหากเราบอกคุณว่าจริง ๆ แล้วคุณสามารถเพิ่มชั้นความปลอดภัยพิเศษ พร้อมปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณได้อย่างสูงสุดใน VPN ล่ะ ตรงนี่แหละเป็นเรื่องของ NeuroRouting ที่เราจะให้ข้อมูลแก่คุณในบทความนี้
NeuroRouting คืออะไร
NeuroRouting เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ในตอนนี้มีให้บริการใน Perfect Privacy VPN และ ZorroVPN เท่านั้น มันเป็นการตั้งค่า VPN แบบ multi-hop ซึ่งจะทำการเข้ารหัสการจราจรของคุณไปยังหลายเซิร์ฟเวอร์ และให้ความไม่ระบุตัวตนแก่ที่สมบูรแบบให้แก่คุณ
NeuroRouting ทำงานอย่างไร
เครือข่าย VPN ทุกเครือข่ายนั้นมีเซิร์ฟเวอร์หลายแห่ง นั่นคือ hop กล่าวคือ เมื่อคุณต้องการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง เครือข่าย VPN ของคุณจะเปิดทำงานเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดกับตำแหน่งที่คุณอยู่ ซึ่งการนี้จะให้เส้นทางที่สั้นที่สุดแก่เซิร์ฟเวอร์และเว็บไซต์เป้าหมาย พร้อมกับให้การเชื่อมต่อที่เร็วที่สุดด้วย
และเนื่องจาก VPN จะเข้ารหัสที่อยู่ IP ของคุณ มันจะใช้ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ที่คุณเชื่อมต่อมาแทนที่ที่อยู่ IP จริงของคุณ ซึ่งทำให้ไม่มีใครสามารถเห็นที่อยู่ IP ที่แท้จริงของคุณได้ เพียงเพราะว่ามันจัดวางตำแหน่งคุณไว้ในสถานที่อื่นแบบเสมือน มากไปกว่านี้ VPN จะไม่ดำเนินการบันทึกการเชื่อมต่อใด ๆ ที่สามารถแสดงให้ทราบว่าใครเป็นผู้ใช้ที่อยู่ IP ใดที่อยู่หนึ่ง ดังนั้นจะไม่มีทางเลยที่คนอื่นจะรู้ได้ว่าคุณเป็นใครและมาอยู่ที่ไหน
ทีนี้ หากคุณต้องการเข้าเยี่ยมชมหลายเว็บไซต์ เซิร์ฟเวอร์ VPN ที่คุณเชื่อมต่ออยู่จะแสดงที่อยู่ IP เดียวกันกับทุกเว็บไซต์ ถ้าหากมีคนเฝ้าดูเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้อยู่โดยเฉพาะ และเข้าดูที่อยู่ IP ขาเข้าและขาออกทั้งหมด พวกเขาจะสามารถใช้การตรวจสอบแบบสามเศร้าเพื่อบอกตำแหน่งของคุณได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าคุณจะมีการเข้ารหัสหรือไม่ก็ตาม
และในส่วนนี้เองที่ NeuroRouting เข้ามามีบทบาท มันจะช่วยจัดเส้นทางการจราจรแบบไดนามิกไปทั่ว VPN ที่คุณใช้ กล่าวคือ จราจรไปทั่วเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่จำนวนมากใน VPN ทั้งนี้ มันเป็นการกระทำโดยใช้ AI ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ไลบรารีแบบเปิด (open-source) ของ Google ที่ใช้โปรแกรมกระแสข้อมูล โปรแกรมนี้มีชื่อว่า TensorFlow
เนื่องด้วยฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยีกลไกการเรียนรู้ มันจึงสามารถทำการวิเคราะห์ทุก ๆ เส้นทางที่สามารถใช้ได้ในการเข้าสู่เว็บไซต์ที่คุณต้องการเข้าเยี่ยมชม และค้นหาเส้นทางที่สั้นและปลอดภัยที่สุด ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงในการถูกจู่โจมได้อย่างมากเลยทีเดียว
AI เรียนรู้ตลอดเวลา ดังนั้นมันจะทำการค้นหาเส้นทางที่ดีทีสุดในการเข้าไปยังเว็บไซต์ได้ตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีใครรู้ได้เลยว่าคุณจะใช้เส้นทางไหนในการเข้าถึงเว็บไซต์ ไม่มีใครสามารถคาดเดาเส้นทางที่คุณจะใช้ได้ เพราะว่า NeuroRouting นั้นเป็นระบบไดนามิกและมันจะเปลี่ยนเส้นทางการท่องเว็บของคุณอยู่บ่อยครั้ง
ขณะที่ AI นำเส้นทางการจราจรของคุณไปยังหลายเซิร์ฟเวอร์ มันจะให้ที่อยู่ IP แก่คุณหลายอันในแต่ละเว็บไซต์ที่คุณเข้าเยี่ยมชมอย่างพร้อม ๆ กัน นั่นก็หมายความว่าเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่คุณเข้าไปใช้แล้วจะแสดงที่อยู่ IP ที่ใช้เฉพาะในแต่ละเว็บไซต์ซึ่งจะสัมพันกับ hop สุดท้ายในเส้นทางแบบ multi-hop กล่าวคือ เซิร์ฟเวอร์สุดท้ายในห่วงโซ่ของการเชื่อมต่อนั่นเอง
นี้เป็นการปูทางให้แก่การเชื่อมต่อที่มีความรัดกุมอย่างมากทีเดียว คุณจะสามารถปกป้องสถานะการท่องเว็บแบบไม่ระบุตัวตนและข้อมูลทั้งหมดของคุณได้ตราบใดที่ฟีเจอร์ NeuroRouting กำลังเปิดใช้งานอยู่ และนั่นก็เป็นจุดประสงค์หลักของมัน คือช่วยให้คุณท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยโดยไร้กังวลว่าใครจะรู้ตัวตน ตำแหน่งที่ตั้ง ของคุณ และมีแนวโน้มที่จะพบหนทางในการขโมยข้อมูลของคุณ หรือนำข้อมูลของคุณไปใช้ในทางที่ผิดได้
คุณจะเปิดใช้งานฟีเจอร์ NeuroRouting ได้อย่างไร
หากคุณกำลังใช้งาน VPN ที่มีบริการ NeuroRouting อยู่ (ไม่ว่าจะเป็น Perfect Privacy VPN หรือ ZorroVPN) คุณสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยการเข้าไปยังแดชบอร์ดของสมาชิก VPN ซึ่งคุณจะสามารถกดสวิตช์เปิดปิดการใช้งานได้ที่นั่น และเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานอยู่ทุก ๆ ครั้งที่คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ทั้งนี้ ตอนเปิดใช้งานอาจจะใช้ใช้เวลาสักครู่ในการดำเนินการ และฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกชนิด และเข้ากันได้กับทุกโปรโตคอลอย่างสมบูรณ์ด้วย
คุณสามารถทำการ ทดสอบ NeuroRouting เพื่อดูว่าที่อยู่ IP ของคุณแสดงขึ้นแตกต่างกันในลักษณะใดตลอดทั่วทั้ง VPN เมื่อคุณทำการเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ และดูได้ว่ามันทำงานอยู่จริงหรือไม่ ทั้งนี้จริง ๆ แล้ว หลังจากเปิดใช้งานฟีเจอร์ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เข้าไปตรวจดูสักหน่อยก็ไม่ได้เป็นการเสียเวลาใด ๆ มากมายเช่นกัน
หากคุณพบผลลัพธ์ที่อยู่ IP ซ้ำกันระหว่างที่ทำการทดสอบอยู่นั้น ขออย่าได้ตกใจไป นั่นเป็นเพราะว่าผลลัพธ์จะขึ้นตามตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN ของคุณ และเส้นทางเฉพาะที่คุณใช้เข้าถึงเว็บไซต์ที่นำมาตรวจสอบ กล่าวคือเป็นเซิร์ฟเวอร์ของมันนั่นเอง
.นี่คือเหตุผลให้คุณทำการทดสอบกับการเข้าถึงในหลาย ๆ เว็บไซต์ คุณจะรู้ได้ว่าฟีเจอร์ NeuroRouting กำลังทำลานอยู่ ถ้าหากว่าผลลัพธ์การทดสอบจากเว็บไซต์ที่แตกต่างกันนั้นมีความแตกต่างกันไป
NeuroRouting เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของ VPN ที่อยู่ในแวดวงนี้มายาวนาน แน่นอนว่ามันถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ยงคงกระพัน และเราก็ยังไม่ได้เห็นพลังที่น่าทึ่งของมันจริง ๆ เนื่องจากมันได้รับการปรับปรุงใหม่อยู่อย่างต่อเนื่อง วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการมีอิทธิพลของ AI ที่เพิ่มมากขึ้นกำลังเบิกทางให้เราสามารถเห็นอนาคตเฉกเช่นที่ปรากฏในภาพยนตร์ไวไฟ มันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นแล้วในตอนนี้
หากคุณเลือกที่จะใช้ VPN ฟรี ซึ่งหมายความว่าความเป็นส่วนตัวของคุณจะลดลงไปในทุก ๆ ด้าน มี VPN ฟรีมากมายให้คุณเลือกใช้ และ VPN ฟรีเจ้าที่ดีที่สุด เช่น ExpressVPN และ NordVPN ทั้งสองนี้มีเซิร์ฟเวอร์มากมายให้เลือก และมีความเร็วที่โดดเด่นมาก บวกกับพวกเขาให้บริการฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ๆ อื่นเพิ่มเติม ดังนั้น เราจึงไม่ลังเลที่จะแนะนำให้คุณลองใช้บริการของทั้งสองเจ้านี้ดูอย่างแน่นอน