VPN ยอดเยี่ยม 3 อันดับแรกของปี 2019 สำหรับใช้กับ Fire Stick ในการชม Fire TV

Download Astro
Download Astro
30 พฤษภาคม 2022

 

การใช้อุปกรณ์ Fire Stick หรือ Fire TV ที่เป็นของ Amazon นั้นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเข้าถึงช่องและรายการทีวีหลายพันรายการ คุณสามารถสตรีมรายการของ Netflix, Amazon Prime, YouTube, Hulu, Pandora, HBO Go และช่องอื่นๆ อีกมากมายได้ทุกเวลาที่ต้องการ
 
แต่โชคไม่ดีนัก ที่หลายรายการนั้นถูกกั้นไม่ให้ชมจากบางพื้นที่ คุณเลยไม่สามารถใช้ Fire Stick ได้ทุกครั้งในขณะที่ท่องเที่ยว หรือบางรายการก็ถูกกั้นไม่ให้ชมในประเทศของคุณเองเพราะเรื่องข้อตกลงเรื่องลิขสิทธิ์บางอย่าง หรือคุณอาจจะเชียร์ทีมกีฬาทีมโปรดของคุณไม่ได้ เนื่องจากสิทธิ์ในการออกอากาศในการแข่งขัน
ปัญหานี้เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดเหมือนกัน นั่นคือเหตุผลที่คุณควรเริ่มใช้งาน VPN ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าแค่การเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกกั้นดังที่กล่าวมาทั้งหมด VPN นั้นจะช่วยคุณออนไลน์ได้อย่างปลอดภับและปกป้องข้อมูลและอุปกรณ์ของคุณ
เพราะว่า VPN นั้นจะมอบที่อยู่ IP ใหม่ให้แก่คุณ ซึ่งทำให้คุณเหมือนออนไลน์จากตำแหน่งอื่น และเนื่องจาก VPN นั่นซ้อนที่อยู่ IP และเข้ารหัสข้อมูลเข้าออกของอินเทอร์เน็ตที่คุณใช้ มันจึงช่วยรักษาความปลอดภัยในการออนไลน์ และยังช่วยซ่อนกิจกรรมการใช้งานของคุณจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP; Internet Service Provider) อีกด้วย
การเลือก VPN ที่ดีที่เหมาะกับความต้องการของคุณนั้นอาจเป็นเรื่องที่น่าลังเล เพราะว่ามี VPN ให้คุณเลือกมากมาย แต่ VPN ตามรายชื่อข้างล่างนั้นถือว่าดีที่สุด VPN เหล่านี้น่าเชื่อถือ ให้ความเร็วในการสตรีมที่ดี และราคาอยู่ในระดับที่คุณจ่ายไหว
 
 
ExpressVPN นั้นเป็นเจเนอเรชันแรกของ VPN สำหรับ Fire Stick และเป็นผู้นำในด้านนี้แถมยังใช้งานได้ง่าย ปลอดภัย และมีความเร็วในการสตรีมสูงด้วย นอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์ VPN มากกว่า 1,700 เซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ และยังปลดบล็อกเนื้อหาที่คุณต้องการชมหรือดาวน์โหลดได้ง่ายๆ โดยไม่มีข้อจำกัด
VPN เจ้านี้ใช้งานได้กับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows, iOS, Android, Linux และกับเราเตอร์ทุกแบบ และยังไม่มีการเก็บประวัติการใช้งานและกิจกรรมออนไลน์ของคุณ คุณจึงมั่นใจได้เต็มที่ว่าได้รับการป้องกันในเรื่องความเป็นส่วนตัว VPN เจ้านี้มีการป้องกันเรื่องความเป็นส่วนตัวอย่างนานหนา และระบบการรักษาความปลอดภัยในระดับที่ใช้ในวงการธุรกิจ โดยป้องกันคุณด้วยการเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลด้วยระบบ DNS/IPv6 นอกจากนี้ยังมีระบบ kill switch (ตัดการเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตอัตโนมัติเมื่อปิด VPN) และการแยกทันเนล VPN
 
ExpressVPN ยังมาพร้อมกับ MediaStreamer ที่เป็นโซลูชั่น Smart DNS Proxy ที่ช่วยคุณในการปลดบล็อคเนื้อหาที่ถูกกั้นไม่ให้รับชมในบางพื้นที่ ด้วยวิธีง่ายๆ คือการเปิดใช้งานโซลูชั่นดังกล่าวในการตั้งค่า Fire Stick ของคุณ
 
หากคุณเลือกใช้ ExpressVPN คุณจะใช้ VPN ได้กับอุปกรณ์ 3 เครื่องต่อ 1 บัญชีการใช้งาน ผู้ให้บริการนั้นยังมีหน่วยสนับสนุนทางการแชท ที่คุณสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่หากพบปัญหาในการใช้บริการ
ExpressVPN ราคาแค่ 12.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน และนอกจากนี้ยังมีระบบการคืนเงินเต็มจำนวน โดย VPN เจ้านี้มีนโยบายคืนเงินภายใน 30 วันหากไม่พึงพอใจ ดังนั้นคุณสามารถทดสอบตลอดเดือนว่า ExpressVPN  เหมาะกับควมต้องการของคุณหรือไม่ หากไม่คุณจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน แน่นอนว่าไม่มีความเสี่ยงและไม่ต้องกลัวเรื่องการถูกหลอก
VPN เจ้านี้ไม่ใช่หนึ่งในทางเลือกที่ถูกที่สุด แต่มีมาตรฐานสูงสุดในแง่ของการรักษาความปลอดภัยและความเร็วในการใช้สตรีม และเป็น VPN หนึ่งในไม่กี่เจ้าที่ให้คุณใช้สตรีม Netflix และ Hulu นอกประเทศสหรัฐฯ ได้อีกด้วย
 
 
 
หนึ่งในบริการ VPN ยอดเยี่ยมอีกเจ้าคือ IPVanish ที่เป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ VPN นิรนามกว่า 1,100 เซิร์ฟเวอร์ ที่ตั้งอยู่ใน 60 ประเทศ ซึ่งส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว และใช้ในการชมรายการหลายพันช่องที่ถูกกั้นไม่ให้รับชมในบางพื้นที่ได้ทั่วโลก นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ได้ไม่จำกัดครั้ง และสามารถรับส่งข้อมูลด้วยระบบ P2P (Peer-to-peer) ได้ไม่จำกัด และยังไม่จำกัดแบนด์วิธซึ่งทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายของคุณไม่ลดลงแน่นอน
VPN เจ้านี้ใช้บริการเข้ารหัส 256-bit AES และไม่บันทึกประวัติและกิจกรรมออนไลน์และการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเชื่อมต่อกับ VPN หลายประเภท (โปรโตคอล VPN แบบ IKEv2, OpenVPN, และ L2TP/IPsec) ถึงแม้ว่าที่อยู่ IP ของคุณนั้นไม่ถูกเข้ารหัส แต่ VPN นี้ใช้เว็บพร็อกซี่ SOCKS5 ในการซ่อนที่อยู่ IP ส่วนตัวของคุณ ขณะที่อยู่คุณเชื่อมต่อด้วยระบบ P2P และ VoIP
 
IPVanish นั้นใช้งานง่ายมากและใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกอย่าง และยังยอมให้ใช้กับอุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 10 เครื่อง และมีหน่วยบริการลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ
ทันทีที่คุณสมัครสมาชิก คุณสามารถติดตั้ง VPN ลงในการตั้งค่าของอุปกรณ์ได้ทันที คุณยังโหลดแอพของ IPVanish ได้ในร้านค้าอย่างเป็นทางการของ Amazon ในแอพสโตร์ แอพนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับ Fire Stick และอุปกรณ์ของ Fire TV ทำให้คุณดาวน์โหลดและติดตั้งมันได้ง่ายมาก
IPVanish นั้นไม่มีข้อเสนอเรื่องการทดลองใช้ฟรี แต่มีนโยบายการันตีจ่ายเงินคืนภายใน 7 วันหากไม่พอใจในบริการ นั่นหมายความว่าคุณสามารถทดลองใช้ VPN เจ้านี้ได้ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นคุณสามารถรับเงินคืนเต็มจำนวนหากคุณไม่พอใจกับบริการอย่างเต็มที่ ค่าบริการรายเดือนของเจ้านี้เพียงแค่ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น
 
 
 
ดังเช่นที่ขึ้นอยู่ในเว็บไซต์ทางการของ VPN เจ้านี้ VPNArea ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว การรักษาความปลอดภัย และอิสรภาพในการใช้งาน โดยใช้งานได้อุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows, Mac, iOS, Android และ Linux VPNArea นั้นสามารถมอบความปลอดภัยสูงสุดให้กับอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยระบบการเข้ารหัสนั้นแข็งแกร่งในระดับเดียวกับที่ธนาคารใช้ และยังปกปิดตัวตนของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
 
หมดปัญหาเรื่องการถูกบล็อกเนื้อหาหรือเว็บไซต์ที่รับชมไม่ได้ในบางประเทศ หรือปัญหาความเร็วตกเนื่องจากผู้ใช้งานมาก VPNArea นั้นลบข้อจำกัดทั้งหมดนี้และมอบประสบการณ์การสตรีมที่ไร้ที่ติให้แก่คุณ ทั้งที่อยู่ IP ตำแหน่ง และกิจกรรมออนไลน์ของคุณจะถูกซ่อนจากทั้งผู้ให้บริการ VPN และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เพราะ VPNArea มีนโยบายว่าจะไม่บันทึกประวัติใดๆ
 
VPNArea นั้นใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ 6 เครื่องพร้อมๆ กัน และคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการเข้าถึงเครือข่าย VPN ใน 70 ประเทศ นอกจากจะใช้โปรโตคอลแบบ OpenVPN แล้ว VPNArea ยังให้คุณเลือกใช้ IKEv2 VPN ได้อีกด้วยซึ่งจะทำให้การสตรีมนั้นเร็วขึ้นอีก 50-100%
 
นอกจากนี้ VPNArea ไม่ได้ตัดเงินแบบอัตโนมัติ คุณจ่ายเงินเป็นเดือนๆ ไปหากต้องการใช้งาน หรือไม่จ่ายหากต้องการยกเลิกในตอนไหนก็ได้ตามต้องการ ถึงแม้จะไม่มีนโยบายทดลองใช้งานฟรี แต่บริการการันตีจ่ายเงินคืนหากคุณตัดสินใจหยุดใช้บริการหลังจ่ายเงินแล้ว 7 วัน ค่าบริการนั้นเพียงแค่เดือนละ 9.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ
 
นี่คือสามอันดับ VPN ยอดเยี่ยมสำหรับใช้งานกับ Fire Stick และ Fire TV ที่คุณไม่ควรพลาดในการลองใช้
 
การที่คุณจะใช้ VPN เจ้าได้ก็ตามกับอุปกรณ์ Fire Stick ขอให้คุณมั่นใจว่า CPU ของอุปกรณ์ของคุณนั้นมีการประมวลผลเร็วเพียงพอ ไม่เช่นนั้นแล้วความเร็วในการสตรีมจะลดน้อยลง โชคไม่ดีนักที่ Fire Stick เจเนอเรชันที่ 2 นั้นไม่ได้มี CPU ที่ประมวลผลเร็วนัก อย่างไรก็ตาม Fire TV มี CPU ที่ประมวลผลเร็วพอ
 
ดังนั้นหากคุณไม่อยากอัพเกรดไปใช้ Fire TV แทน คุณอาจจะใช้ VPN กับเราเตอร์ของคุณ (ขอให้มั่นใจว่าเราเตอร์นั้นใช้ CPU ที่ประมวลผลเร็วอย่างน้อย 1.4 GHz) จากนั้นก็ต่อ Fire Stick ของคุณเข้ากับ VPN เพื่อเริ่มรับชมได้เลย