VPN ใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ปลอมหรือเปล่า

Download Astro
Download Astro
3 มิถุนายน 2022
 
สำหรับผู้ใช้ VPN แล้วนั้น จำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ VPN มีให้บริการมีบทบาทมากในการทำให้เลือกใช้ VPN นั้น ๆ ดังนั้นคุณอาจจะตกใจถ้ารู้ว่าตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้ให้บริการ VPN อ้างถึงนั้น จริง ๆ แล้วเป็นตำแหน่งปลอม หรือ ตำแหน่ง “เสมือน”
 
ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนคืออะไรกันแน่ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ให้บริการ VPN ของคุณใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือน และ VPN เจ้าไหนที่มีชื่อทางด้านนี้ วันนี้เรามีคำตอบให้กับทุก ๆ คำถามของคุณ
 
 
ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนคืออะไร
 
ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือน คือ เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศหนึ่งแต่มีที่อยู่ IP อยู่อีกประเทศหนึ่ง และนี่ก็หมายความว่า เมื่อผู้ให้บริการ VPN กล่าวว่าพวกเขามีเซิร์ฟเวอร์จำนวนหนึ่งตั้งอยู่ในประเทศหนึ่ง จริง ๆ พวกเขาอาจจะไม่ได้มีเซิร์ฟเวอร์เยอะขนาดนั้น หรือไม่มีเซิร์ฟเวอร์จริง ๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศนั้น ๆ
 
คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ หากเซิร์ฟเวอร์นั้นให้ที่อยู่ IP จากประเทศที่คุณต้องการได้ มันจะมีอะไรแตกต่างจากการมีเซิร์ฟเวอร์จริง ในประเทศนั้นหรือไม่
 
ใช่ มีความแตกต่าง มีปัญหาหลัก ๆ สองข้อที่มากับเรื่องนี้
 
ข้อแรก ยิ่งเซิร์ฟเวอร์อยู่ไกลคุณมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพการทำงานของมันก็จะแย่ลงเท่านั้น ดังนั้น ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนอาจจะส่งผลให้ความเร็วการเชื่อมต่อลดน้อยลงกว่าที่คาดไว้ (แม้ว่าบางครั้งก็อาจจะมีผลการเชื่อมต่อที่เร็วกว่าได้ด้วยก็ตาม) 
 
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นก็คือ กรณีที่เซิร์ฟเวอร์เสมือนตั้งอยู่ในประเทศที่คุณต้องการจะหลีกเลี่ยง บางทีคุณอาจจะไม่อยากเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย คุณจึงทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของสวิตเซอร์แลนด์ เว้นแต่ว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ทาง VPN อ้างว่าเป็นเซิร์ฟเวอร์สวิตเซอร์แลนด์นั้นจริง ๆ แล้วตั้งอยู่ที่อเมริกา กรณีแบบนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่พอตัวเลยทีเดียว
 
 
ทำไมผู้ให้บริการ VPN ถึงใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือน
 
เนื่องด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ และตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์นั้นเป็นจุดขายชั้นดีสำหรับ VPN ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามสร้างเซิร์ฟเวอร์ให้เพิ่มมากขึ้นอยู่เสมอ และเรื่องจริงก็คือ ถ้าหากพวกเขาวางเซิร์ฟเวอร์ลงในประเทศที่พวกเขาปฏิบัติการอยู่ และใส่ที่อยู่ IP ของประเทศอื่นลงไปในเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ จะช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าการวางเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่ประเทศอื่น
ทั้งหมดนี้ตกลงมาอยู่ที่การตลาด ยิ่งพวกเขามีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดึงดูดใจผู้บริโภคมากขึ้นเท่านั้น และแม้ว่าเซิร์ฟเวอร์เสมือนนี้จะให้ผลลัพธ์ตามต้องการได้ แต่ว่าไป มันก็ยังเป็นการไม่ซื่อตรงอยู่ดีในการอ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ มีตำแหน่งอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ตำแหน่งจริง
 
 
วิธีการตรวจสอบตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือน
 
การทดสอบดูว่าเซิร์ฟเวอร์นั้นตั้งอยู่ในตำแหน่งที่บริษัท VPN ได้อ้างไว้ตามนั้นจริง ๆ หรือไม่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย มีการทดสอบแบบรวดเร็วอยู่สองสามวิธีที่คุณสามารถกระทำได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้ตำแหน่งที่แท้จริงทางกายภาพของเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ
 
วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบว่าเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ ตั้งอยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่หรือไม่เรียกว่าการทดสอบ traceroutes ซึ่งคุณสามารถทำการทดสอบดังกล่าวได้ ที่นี่ โดยการคัดลอก URL เซิร์ฟเวอร์แล้วนำมาวางลงในแถบค้นหา จากนั้นให้เลือกเมืองที่อยู่ใกล้กับสถานที่ที่เซิร์ฟเวอร์อ้างว่าอยู่ที่นั่น ถ้าหากว่าเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ ตั้งอยู่ในประเทศนั้นจริง ๆ มันควรจะใช้เวลาเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที หากคุณได้ผลลัพธ์เป็นร้อยหรือเป็นพัน แสดงว่าเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้อยู่ในประเทศนั้นแน่ ๆ
 
อีกการทดสอบหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือ การทดสอบ ping การทดสอบนี้จะ ping เซิร์ฟเวอร์จากตำแหน่งที่แตกต่างกันจำนวนมากทั่วโลก ยิ่งใช้ ping ใช้เวลาในการเดินทางไปหาเซิร์ฟเวอร์นานเท่าไหร่ แสดงว่าเซิร์ฟเวอร์อยู่ไกลจากจุดเริ่มมากเท่านั้น ด้วยการทำการทดสอบ ping คุณสามารถตรวจสอบได้อย่างคร่าว ๆ ว่าเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ ตั้งอยู่ที่ใด คุณสามารถเข้าไปทำการทดสอบนี้ได้ที่ CA App Synthetic Monitor หรือ Ping.pe.
 
หลังจากที่ทำการทดสอบทั้งสองวิธีนี้แล้ว คุณควรจะรู้อย่างกระจ่างแล้วว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้ให้บริการ VPN ของคุณอ้างถึงนั้นตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่
 
 
VPN ใดบ้างที่ใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือน
 
 
ส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนของตน แต่ยังไม่ผู้ให้บริการบางรายที่ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าพวกเขาใช้ยุทธวิธีนี้ และด้านล่างก็เป็นรายชื่อของผู้ให้บริการ VPN ที่รู้กันว่าใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือน:
 
• ExpressVPN
• PureVPN
• HideMyAss
• VyprVPN
 
ในกรณีของ ExpressVPN ทางบริษัทได้อ้างว่าพวกเขาใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนน้อยกว่าร้อยละสามของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ทั้งนี้ พวกเข้าไปประกาศรายชื่อตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งของตนเอาไว้ให้ด้วยขณะที่ทาง PureVPN Hide My Ass และ VyprVPN ได้ยอมรับว่าใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนด้วยทั้งสิ้น หากแต่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยให้ทราบว่าเซิร์ฟเวอร์ใดเป็นเซิร์ฟเวอร์เสมือน
 
ExpressVPN กล่าวว่า พวกเขาใช้ตำแหน่งเสมือนกับประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานต่ำ และอ้างว่าหากไม่ใช้ตำแหน่งเสมือนในสถานที่เหล่านั้น มันจะทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
 
VyprVPN กล่าวว่า พวกเขาใช้ตำแหน่งเสมือนกับประเทศที่มีระบบการปกครองแบบจำกัด พร้อมกับเสริมว่าตำแหน่งเสมือนจะเป็นตัวทำให้มั่นใจว่าเครื่องมือของพวกเขาอยู่ห่างจากรัฐบาลที่เป็นอันตรายเหล่านั้น
 
PureVPN และ HideMyAss ไม่ได้เปิดเผยว่าทำไมพวกเขาถึงใช้ตำแหน่งเสมือนกับเซิร์ฟเวอร์บางแห่ง
 
 
VPN ใดบ้างที่ไม่ใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือน
 
 
ผู้ให้บริการ VPN ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะพูดถึงตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนของตน หรือได้ปฏิเสธว่าใช้มัน VPN ตามรายชื่อด้านล่างนี้ได้ประกาศออกสู่สาธารณะว่าพวกเขาไม่ใช้ตำแหน่งเสมือน:
 
 
และแน่นอนว่า หากคุณต้องการจะแน่ใจว่าผู้ให้บริการ VPN ของคุณนั้นไม่ได้ใช้ตำแหน่งเสมือนจริง ๆ วิธีที่ดีที่สุดคือต้องทำการทดสอบตามที่ได้แนะนำไว้ก่อนหน้านี้เพื่อให้เห็นกับตาคุณเอง
 
และกฎดี ๆ อีกข้อที่ควรกระทำคือ หากคุณเป็นกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งเสมือน ให้คุณใช้บริการ VPN ที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย ความจริงก็คือ บริษัทเหล่านี้มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่น้อยกว่า แต่พวกเขาก็ให้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่แท้จริง มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพเซิร์ฟเวอร์มากกว่าที่จะสร้างเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
 
สุดท้าย ขณะที่ VPN ฟรีมีชื่อเสียงอย่างเช่น Windscribe และ TunnelBear คุณอาจจะต้องเลี่ยงการใช้บริการฟรีของพวกเขา เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่า VPN เหล่านี้เป็นสแกม และอาจเป็นไปได้ที่พวกเขาจะใช้ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนเพื่อลดต้นทุน